ถ้าเดือนมกราคม พ.. 2567 ทางบริษัทฯ ได้ยื่นรายได้ของแม่บ้านไว้ใน ภ...1 แต่ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์จะเปลี่ยนไปยื่น ภ...3 ได้ไหมคะ

แล้วในเดือนมกราคมที่ยื่นไปแล้วต้องทำการปรับปรุงไหมคะ ซึ่งรายได้ของแม่บ้านหัก ณ ที่จ่ายของเดือนมกราคม = 0 ค่ะ ขอบคุณค่ะ

การปฏิบัติของแม่บ้าน หากมีลักษณะเป็นการใช้แรงงานแต่โดยลำพังของแม่บ้านผู้รับทำงานให้ เข้าลักษณะเป็นเงินได้จากการรับทำงานให้ อันเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งบริษัทฯ มี
หน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) วรรคหนึ่ง และวรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณหักตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (อัตราก้าวหน้า) ของเงินได้สุทธิ ของเงินได้ที่เสมือนหนึ่งว่าจ่ายเต็มทั้งปี

กรณีที่จะถือว่า เงินได้พึงประมินที่จ่ายให้แม่บ้าน เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งบริษัทฯ ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 3% ของเงินได้ ตามข้อ 8 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.. 4/2528ฯ และนำส่งตามแบบ ภ...3 นั้น ต้องเป็นการประกอบกิจการที่เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า แม่บ้างได้ประกอบกิจการในรูปแบบของการทำธุรกิจและสามารถพิสูจน์รายจ่ายในการประกอบกิจการได้ ซึ่งแม่บ้านต้องมีลักษณะการประกอบกิจการดังนี้

(1) ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนและ

(2) ได้จัดตั้งเป็นสำนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีอาคารสำนักงานเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หรือเช่าจากบุคคลอื่น โดยมีหลักฐาน เช่น หลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สัญญาเช่าสำนักงาน และ

(3) มีการลงทุนด้วยการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ มีค่าใช้จ่ายสำนักงาน และ

(4) มีการจ้างลูกจ้างหรือพนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีหลักฐานตามสัญญาจ้างแรงงาน หลักฐานการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และหลักฐานการแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่ง ในกรณีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่มีภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายและนำส่ง จะต้องมีหลักฐานเกี่ยวกับการยื่นรายการเกี่ยวกับค่าจ้างแรงงานตามแบบ ภ.ง.ด.1 ก. และ

(5) มีค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ เช่น ค่ารับรอง หรือค่าบริการเพื่อประโยชน์ในการติดต่องานกับลูกค้า

จึงขอให้พิจารณาให้รอบคอบในการที่จะเปลี่ยนแปลงแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จาก ภ...1 เป็น ภ...3 เพราะในทางปฏิบัติ การยื่นแบบฯ ผิด ถือว่าไม่ได้ยื่นแบบฯ.