ประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นกระแสร้อนแรงสร้างปรากฎการณ์ไปทั่วโลก สำหรับ “สควิดเกม​ (Squid Game) เล่นลุ้นตาย” ซีรีส์แนวเอาชีวิตรอด สัญชาติเกาหลีใต้ จาก “เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)”  ที่ตอนนี้คว้ามง ขึ้นแท่นอันดับ 1 ออริจินัลซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ยอดนิยมที่สุดไปแล้ว โดยมีคนดูถึง 111 ล้านบัญชี หลังเปิดตัว 28 วันแรก ซึ่งความปังดังกล่าว นอกจากทำให้เหล่านักแสดงนำได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดแล้ว  ยังส่งอิทธิพลโดยตรงมายังวงการแฟชั่น  รวมถึงวัฒธรรมของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเกมการเล่นของเด็ก ๆ หรือแม้แต่ขนม ที่ปรากฏในซีรี่ส์ก็ล้วนได้รับความนิยมมหาศาล วันนี้  “เทรนดี้ ฟรีไทม์” จึงไม่พลาดรวมความปังในด้านแฟชั่น ศิลปะและวัฒนธรรม ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก  “สควิดเกม​” ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก มาฝากแฟน ๆ กัน

คอสตูมผู้ร่วมแข่งขัน ผู้คุม และฟร้อนแมน

ฮอตฮิตติดลมบนสุด ๆ สำหรับยูนิฟอร์มของเหล่าตัวละครในซีรี่ส์ “สควิดเกม” ไม่ว่าจะเป็นคอสตูมผู้เข้าแข่งขัน ในชุดวอร์มสีเขียว ใส่ทับเสื้อยืดด้านในสีขาว โดยระบุหมายเลขผู้เล่นอยู่บนชุด และชุดผู้คุมสีชมพูเข้ม ที่ถูกดีไซน์เป็นชุดหมี มาพร้อมหน้ากากฟันดาบ ที่สัญลักษณ์เป็นรูปวงกลม สี่เหลี่ยม และสามเหลี่ยม รวมถึงชุดฟร้อนแมนสุดลึกลับ ที่มาพร้อมโค้ทยาวมีฮู้ด ซ่อนใบหน้าภายใต้หน้ากากเหล็กรูปทรงเหลี่ยม  ดูน่าเกรงขาม  ซึ่งทั้งหมดล้วนได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

โดยทาง Lyst  แพลตฟอร์มแฟชั่นชื่อดัง  ได้ออกมาเปิดเผยว่ามีการค้นหาไอเท็มเกี่ยวกับชุดวอร์มสีเขียว ที่เหมือนของผู้เข้าแข่งขัน เพิ่มสูงขึ้น 97%  และค้นหาชุดที่คล้ายของผู้คุมเพิ่มขึ้น 62% ขณะที่เสื้อยืดสีขาวที่มีระบุหมายเลย ก็เพิ่มสูงขึ้น 35% เช่นกัน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า คอสตูมจาก “สควิดเกม” จะเป็นหนึ่งในชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงฮัลโลวีน ที่กำลังจะมาถึงปลาย ต.ค. นี้

รองเท้าสลิปออนสีขาว สุดฮิต

นอกจากยูนิฟอร์มของตัวละครต่าง ๆ ในซีรี่ส์ ที่ได้รับความนิยมแล้ว อีกหนึ่งไอเท่มสุดฮิตที่ได้รับอานิสงค์จาก “สควิดเกม” จนทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูด ก็คือรองเท้าสลิปออนสีขาว ที่เหล่าผู้เข้าแข่งขันสวมใส่ในเรื่องนี้ โดยทาง Sole Supplier ได้เปิดเผยว่า ตั้งแต่ซีรีส์เปิดตัวครั้งแรกบน  “เน็ตฟลิกซ์”  ยอดขายรองเท้า แวนส์ สลิป – ออน (Vans Slip-On)  สีขาว ก็พุ่งสูงขึ้นกว่า 7,800 %  นอกจากนี้ทาง Lyst  ยังเผยว่ามีการค้นหาเกี่ยวกับรองเท้าผ้าใบสีขาว เพิ่มขึ้น 145% เรียกว่าปังตั้งแต่หัวจรดเท้าจริง ๆ!

แฟชั่นตุ๊กตาแบ๊วสังหาร ชวนขนลุก

ตุ๊กตาของจริง ณ หมู่บ้านรถม้า ภาพ : WikiTree
ตุ๊กตาจำลอง ในสถานีรถไฟใต้ดินใน ณ กรุงโซล

อีกหนึ่งความโด่งดังของซีรี่ส์นี้ ก็คือ “ตุ๊กตาสังหาร”  ที่เป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงตัวยักษ์  มัดผมแกละสองข้าง ไว้หน้าม้า สวมชุดเอี๊ยมสีส้มทับเสื้อสีเหลือง เจ้าของด่าน “เออีไอโอยู หยุด! (A-E-I-O-U หยุด!)”  หนึ่งในเกมที่ผู้แข่งขันต้องเผชิญในซีรี่ส์  “สควิดเกม”  ที่กลายเป็นอีกหนึ่งไอคอนความหลอน!  โดยน้องตุ๊กตาตัวดังกล่าวนี้มีอยู่จริง  ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านรถม้า เขตจินชอน ในชงชองบกโด ประเทศเกาหลีใต้  ก่อนถูกทีมงานยืมไปใช้ประกอบในฉากสุดสยอง  แต่น่าเสียดายที่ทางพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หุ่นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงดังกล่าว กำลังจะเลิกแสดงหุ่นตัวนี้ที่สวนของพิพิธภัณฑ์แล้ว  แต่ก็ยังคงมีหุ่นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงขนาดจำลอง ตั้งไว้ที่จุดสำคัญในสถานีรถไฟใต้ดินใน ณ กรุงโซล เพื่อให้แฟน ๆ ได้เข้าไปเก็บภาพเป็นที่ระลึก นอกจากนี้สาวน้อยจอมสังหารสุดฮอต ยังดังไกลถึงฟิลิปปินส์  เพราะได้มีการจำลองหุ่นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงชวนขนลุกแบบ ใน “สควิดเกม” ไปตั้งที่หน้าช็อปปิ้ง มอลล์แห่งหนึ่ง ณ กรุงคูซอน ซิตี้  ซึ่งได้รับความสนใจไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ยังมีคนดังแห่แต่งตัวคัฟเวอร์ตุ๊กตาสังหารนี้กันเพียบ ทั้งนางเอกสาว ทับทิม – อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์  ที่แต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมเมคอัพจัดเต็ม แถมยังเลียนแบบท่าทางร้องเพลงสุดหลอน แต่บอกเลยว่าดูแล้วน่าเอ็นดูมากกว่าน่ากลัว ด้าน เอลซี่ ตัน ไอเชีย ภรรยาคนสวยของ ตั๊ก – บริบูรณ์ จันทร์เรือง ก็ควงคู่ลูกสาว น้อง “น้องบีลีฟ” เมคโอเวอร์เป็นตุ๊กตาสังหาร แบบแพ็คคู่ แถมยังโชว์ความโหด เมื่อคุณสามีหนีพยายามหนีออกจากบ้าน แต่ก็ไม่รอดโดนคุณแม่และคุณลูกแท็กทีมกันสกัด จนทำให้หนุ่มตั๊กถึงกับต้องพนมมือไหว้ร้อวขอชีวิต!  เรียกเสียงหัเราะจากแฟน ๆ  รวมทั้งยังมี  ยูริ – สุกานดา ภรรยาคนสวยของ บอล เชิญยิ้ม , “น้องมายู” ลูกพ่อ หนุ่ม – กรรชัย กำเนิดพลอย กับ แม่เมย์ เฟื่องอารมณ์ รวมถึง โก๊ะตี๋ อารามบอย และ ชินดง วงซูเปอร์จูเนียร์ ก็ไม่พลาดแต่งตัวเป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงสุดหลอนนี้เช่นกัน  

เพลง “ดอกมูกุงฮวาบาน” สุดหลอน!

นอกจากเครื่องแต่งกายที่ได้รับความนิยมล้นหลามแล้ว  เนื้อเพลงหลอนติดหูท่อนสั้น ๆ ซึ่งใช้ในการเล่นของเด็ก ๆ เกาหลี โดยต้นฉบับเกาหลีร้องว่า “มูกุงฮวา โกชี พีอ๊อดซึมนีดา!” ที่แปลว่า “ดอกมูกุงฮวา บานแล้ว!” ก็ฮอตฮิตไม่แพ้กัน สำหรับคำพูดท่อนนี้ถูกแปลไปในหลากหลายภาษา ตามเกมท้องถิ่นที่ประเทศนั้น ๆ จะเข้าใจ เช่น ของอเมริกา ตุ๊กตาเด็กหญิงจะร้องว่า “กรีนไลท์ เรดไลท์ ( Green Light Red Light)” ส่วนของไทยจะร้องว่า “เออีไอโอยู หยุด (A-E-I-O-U หยุด)”  ทั้งนี้มีการายงานเพลงที่ร้องในซีรี่ส์ท่อนนี้ฮอตฮิตหนักมาก มีคนนำเสียงมาใช้ประกอบวิดีโอกว่า 2 แสนคลิป และมียอดวิวในติ๊กต๊อก (Tiktok) มากกว่า 17,000 ล้านวิวแล้วด้วย นอกจากนี้ซีนในด่านตุ๊กตาสังหารดังกล่าวยังถูกนำไปทำพาโรดี้ (Parody) ล้อเลียนมากมาย

รวมถึงในรายการ “Saturday Night Live” นักแสดงดัง รามี มาเลค ยังแท็คทีม  พีท เดวิดสัน ร้องล้อเลียนเพลงคันทรี่ดัง “Turn Up On the Weekend” แถมยังทำเอ็มวีพาโรดี้ฉากต่าง ๆ ของ  “สควิดเกม” รวมถึงมีการใส่ฉากตุ๊กตาสังหารและเสียงร้อง “มูกุงฮวา โกชี พีอ๊อดซึมนีดา!” ลงไป ด้วย

วงการเพ้นท์เล็บ ไม่พลาดเทรนด์ “สควิดเกม”

สายชอบทำเล็บอย่าพลาด!  เพราะความฮอตฮิตของ “สควิดเกม” ยังลามมายังวงการเพ้นท์เล็บด้วย โดยตอนนี้เหล่าเนล อาร์ทติสท์ (Nail Artist) จากทั่วโลก อาทิ ในมาเลเซีย , ออสเตรเลีย , สเปน , เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ต่างพากันครีเอทลวดลาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากซีรี่ส์เรื่องนี้  ทั้งลายตุ๊กตาสังหาร , สัญลักษณ์วงกลม สามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ปรากฏทั้งในบัตรเชิญเล่นเกม  หน้ากากผู้คุมเกม  รวมถึงฉากเกมปลาหมึก  , รูปกล่องของขวัญสีดำ ผูกโบว์สีชมพู นอกจากนี้ยังมีการทาเล็บสีเขียว ตามแบบชุดของผู้เข้าแข่งขัน พร้อมใส่หมายเลขประจำตัว หรือจะทาสีชมพูจัด พร้อมสัญลักษณ์  วงกลม สามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม บนหน้ากากของผู้คุม รวมทั้งการทองสีทอง พร้อมเพ้นท์เป็นลายหน้ากากของฟรอนต์แมน ก็เก๋ไม่แพ้กัน

ปลุกกระแสแกะขนมพื้นบ้าน “ทัลโกนา”

ด้วยความดังของซีรี่ส์ นอกจากทำให้แฟชั่นต่าง ๆ ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายแล้ว ยังปลุกชีพขนมพื้นเมือง อย่าง “ทัลโกนา (Dalgona)” หรือ “ขนมน้ำตาลแผ่น” ของเกาหลี ให้กลับมาฮอตฮิตอีกครั้ง และยังดังไกลไปทั่วโลก  โดย “ทัลโกนา” นั้น เป็นขนมน้ำตาลแผ่นบาง ๆ ที่แตกได้ง่าย ดังนั้นเด็กเกาหลีสมัยก่อน  จึงนำมาเล่นเกมเจาะลายขนมแข่งกัน โดยใช้เข็มค่อย ๆ เจาะแผ่นน้ำตาลตามรอยลวดลายบนขนม  ใครทำได้ก็เป็นผู้ชนะไป ซึ่ง “ทัลโกนา” มาปรากฏตัวในซีรี่ส์ตอนที่ 3 กับเกมที่เหล่าผู้เข้าแข่งขันต้องแกะขนมทัลโกนาแบบสมัยก่อน  ที่ใช้เข็มเจาะตามรอยลวดลายบนแผ่นขนมบาง ๆ ซึ่งหากว่าขนมแตกก็ถือว่าแพ้  ซึ่งบอกเลยว่าเป็นงานหินทีเดียว! 

ภาพ : REUTERS Minwoo Park
ภาพ : REUTERS/ Heo Ran

โดยหลังจากที่ซีรี่ส์  “สควิดเกม” ออนแอร์ไป ก็ทำให้หลาย ๆ คาเฟ่นำขนมนี้ออกมาให้บริการแฟนซีรี่ส์กันถ้วนหน้า  รวมไปถึงร้านทำขนม “ทัลโกนา” ออริจินัล ที่ทำขนมนี้ให้กับกองถ่ายซีรี่ส์ “สควิดเกม”  ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง  โดยร้านนี้ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงโซล  ประเทศเกาหลีใต้ และเปิดขายมานานกว่า 8 ปี โดยหลังซีรี่ส์ออกฉาย จากที่เคยขายได้วันละราว 200 ชิ้น ก็พุ่งขึ้นเป็น 500 ชิ้นต่อวัน แถมมีลูกค้ามาต่อแถวซื้อยาวเหยียด และทางร้านยังเอาใจแฟนซีรี่ส์  โดยจัดที่นั่งเล็ก ๆ ไว้ให้คนที่อยากเล่นเกมแกะน้ำตาลด้วย!

อีเว้นต์ “สควิดเกม” ผุดทุกมุมโลก 

ปรากฎการณ์  “สควิดเกม” ทำให้ร้านค้า คาเฟต่าง ๆ พากันจัดอีเว้นต์รับกระแสสุดปังของซีรี่ส์เรื่องนี้เกือบทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นร้าน “Brown Butter” คาเฟ่สุดน่ารักในประเทศสิงคโปร์  ที่ผุดไอเดียจัดกิจกรรมแกะขนมทัลโกนา ให้คุณลูกค้าได้ประลองฝีมือ โดยมีแบบให้เลือก 3 รูปบบ ได้แก่ วงกลม, ดาว และ หัวใจ โดยต้องแกะให้เสร็จสมบูรณ์ในเวลา 2 นาที หากใครทำภารกิจนี้ล้มเหลว  ก็จะโดนลงโทษโดยการต้องถ่ายรูปตัวเองกับกล่องสีดำ  ส่วนผู้ชนะก็มารับรางวัลไปได้เลย งานนี้มีแฟน ๆ สนใจเข้าร่วมเพียบ! 

ขณะที่อินโดนีเซียก็ไม่น้อยหน้า เมื่อร้าน “Strawberry Cafe” คาเฟ่ในกรุงจาร์กาตา  ก็ขอเกาะกระแสความแรงของซีรี่ส์  จัดอีเวนท์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก  “สควิดเกม” มาเรียกลูกค้า  หลังจากที่ธุรกิจซบเซาเนื่องจากพิษโควิดที่ผ่านมา  โดยได้เนรมิตคาเฟ่ให้กลายเป็นสนามแข่งขันเซอร์ไววัล ทั้ งจัดบรรยากาศด้วยไฟนีออนให้เป็นโทนม่วง พร้อมด้วยพนักงานที่สวมชุดผู้คุมสีชมพูเข้ม  สวมหน้ากากที่มีสัญลักษณ์ แบบในซีรี่ส์ ก่อนเติมความโหดด้วยการถือปืนของเล่น  ไว้รอต้อนรับลูกค้า และเมื่อลูกค้ามาถึงก็จะถูกจับให้ไปเล่นเกมฮิต “เออีไอโอยู หยุด” แต่สบายใจได้ งานนี้ไม่มีการยิงกันจริง แม้ไปไม่ถึงเส้นชัย  รวมถึงยังมีเกมแกะแผ่นน้ำตาล ให้แฟนซีรี่ส์ได้ลองฝีมือกันด้วย  โดย ปุตรา ปรียาดี  เจ้าของคาเฟ่ดังกล่าว ถึงกับบอกว่า “ก่อนหน้านี้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 รายได้ของร้านลดลงเยอะมาก แต่เมื่อทางรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการ กิจการก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว  แต่หลังจากเริ่มจัดกิจกรรม ‘สควิดเกม’ รายได้กลับพุ่งขึ้นสูงแบบก้าวกระโดดทีเดียว!”

ภาพ : Netflix France
ภาพ : Netflix France
ภาพ : Netflix France

บินข้ามทวีปมาฝั่งยุโรปที่ประเทศฝรั่งเศสกันบ้าง เมื่อ “เน็ตฟลิกซ์” ได้จัดร้านป๊อปอัพ ในธีม “สควิดเกม”  ซึ่งการตกแต่งภายในร้าน และเครื่องแบบพนักงานนั้น ถูกออกแบบเหมือนต้นฉบับสุด ๆ พร้อมด้วยเกมต่าง ๆ ที่ให้แฟนซีรี่ส์ได้ร่วมเล่นสนุกกันเสมือนได้แข่งจริง ๆ ทั้งเกม “ทักจี” ที่มีการตบหน้าจริงระหว่างที่รอเข้าคาเฟ่  และเกมแกะน้ำตาลยอดฮิต  ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม  มีคนมาต่อคิวเล่นมากมาย  โดยอีเว้นต์ดังกล่าวนี้จัดเพียง 2 วันเท่านั้น!

ภาพ : KCC

ส่วน ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีใต้ (Korean Cultural Center) ประจำกรุงอาบูดาบี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็ยังได้จัดงานแข่งขัน “KCC Squid Game Event” รับกระแสซีรี่ส์  “เล่นลุ้นตาย” ฟีเวอร์ พร้อมตอกย้ำและผลักดัน ซอฟต์ เพาเวอร์ (Soft Power) ของเกาหลีใต้  โดยมีการจำลองเกมด่านต่าง ๆ ในซีรีส์มาให้ผู้สนใจเข้ามาลองแข่งขันกัน โดยผู้เล่นจะได้สวมชุดแทร็กสูทสีเขียวตามต้นฉบับเป๊ะ! ด้านทีมงานก็จะสวมชุดสุดสีชมพูเข้ม และหน้ากากที่มีสัญลักษณ์ตรงตามซีรีส์เช่นเดียวกัน ซึ่ งทุกเกมจะตั้งอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัย เช่น ด่านเหยียบกระจกก็จะลงมาอยู่บนพื้นราบแทนการวางบนที่สูง  และใช้ปืนฟองน้ำแทนปืนจริง เป็นต้น ที่สำคัญคือ ไม่มีการลงโทษรุนแรง ไม่มีคนตาย และไร้เงินรางวัลด้วย!

แฟนต่างชาติแห่เรียนภาษาเกาหลี

ต้องบอกว่าอิทธิพลของซีรี่ส์ “สควิดเกม”  ยังส่งผลให้แฟน ๆ อยากเรียนภาษาเกาหลีเพิ่มมากขึ้น โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส ได้รายงานว่า สถาบันกวดวิชาหลายแห่ง เปิดเผยว่ามีความสนใจในการเรียนภาษาเกาหลีพุ่งสูงขึ้น  หลังการเปิดตัวซีรีส์ดัง อาทิ แอปพลิเคชั่นสอนภาษา ดิวโอลิงโก อิงค์ (Duolingo Inc)  ที่ให้ข้อมูลว่ามีการสมัครเรียนภาษาเกาหลีในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 76% ส่วนในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 40% ในช่วง 2 สัปดาห์ หลังเปิดตัว “สควิดเกม”   นอกจากนี ดิวโอลิงโก ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้มีผู้ที่กำลังเรียนภาษาเกาหลีมากกว่า 7.9 ล้านคน  ซึ่งถือเป็นภาษาที่เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นอันดับ 2 รองจากภาษาฮินดี ขณะที่สถาบันกษัตริย์เซจอง ซึ่งดำเนินการโดย “กระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้” มีนักศึกษาประมาณ 76,000 คน ใน 82 ประเทศ เมื่อปีก่อน จากเดิมที่เคยมีนักศึกษาเพียง 740 คน ใน 3 ประเทศ เมื่อปี 2550 ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวอย่างรวดเร็วจริง ๆ

เรียกว่าเกาหลีใต้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพอุตสาหกรรมบันเทิง และการเป็นจ้าวแห่ง “ซอท์ฟ พาวเวอร์” ที่สามารถผลักดันและเผยแพร่วัฒนธรรม ขยายอิทธิพลความเป็นเกาหลีใต้ตีตลาดโลก ผ่านผลงานบันเทิงได้อย่างน่าภูมิใจอีกครั้ง!

ภาพ : Netflix