ก่อนเหตุการณ์ข้างต้นจะเกิดขึ้น นางคิม ยอน-ซอก วัย 56 ปี ผล็อยหลับไปพร้อมกับเสียงร้องเบา ๆ ของแมลง และตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนกร้อง แต่ในปัจจุบัน เธอสะดุ้งตื่นกลางดึกทุกคืนเพราะเสียงที่ดังมาก ซึ่งฟังดูเหมือนดนตรีประกอบภาพยนตร์สยองขวัญต้นทุนต่ำ
แคมเปญดังกล่าว ถือเป็นกรณีล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ถดถอยอย่างต่อเนื่อง ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ในปีนี้ อีกทั้งรัฐบาลเปียงยางยังทดสอบขีปนาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูงขึ้น และโจมตีเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะจำนวนมาก
นับตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือใช้ลำโพงตามแนวชายแดน เพื่อกระจายเสียงเป็นวงกว้าง ซึ่งจุดเหนือสุดของเกาะคังฮวา อยู่ห่างจากเกาหลีเหนือเพียงประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น
ในเวลา 23.00 น. ของทุกวัน ตามเวลาท้องถิ่นของเกาหลีใต้ (21.00 น. ตามเวลาในไทย) เกาหลีเหนือจะเริ่มกระจายเสียงกรีดร้องของผู้คนที่เสียชีวิตในสนามรบ เสียงปืน เสียงระเบิด และเสียงเพลงสุดหลอน ท่ามกลางพื้นที่กว้างใหญ่ที่เกือบมืดสนิท ส่งผลให้บรรยากาศดูน่ากลัวอย่างมาก
ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า เกาหลีเหนือเคยกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อ โดยมุ่งเน้นไปที่การวิพากษ์วิจารณ์บรรดาผู้นำเกาหลีใต้ หรือการยกย่องเกาหลีเหนือ ทว่าในตอนนี้ มันเป็นเสียงที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจและขนลุก
ด้านนายปาร์ค ฮึง-ยอล สมาชิกสภาเทศบาลคังฮวา กล่าวว่า การกระจายเสียงแบบใหม่นี้ ไม่ใช่แค่การโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลเปียงยาง แต่มันมีจุดประสงค์เพื่อทรมานผู้คนอย่างแท้จริง ขณะที่ผู้สันทัดกรณีหลายคน กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระจายเสียงข้างต้น เกือบเข้าข่าย “แคมเปญการทรมาน” แล้ว
แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า เสียงรบกวนที่ดังเกิน 60 เดซิเบลในตอนกลางคืน เพิ่มความเสี่ยงของความผิดปกติด้านการนอนหลับ แต่การกระจายเสียงของเกาหลีเหนือที่ดังมาถึงเกาะคังฮวา อยู่ในระดับสูงถึง 80 เดซิเบล
ผู้สันทัดกรณีด้านเสียง กล่าวว่า เสียงรบกวนที่ทรมานชาวเกาหลีใต้บนเกาะคังฮวา ดูเหมือนจะเป็นการผสมผสานคลิปเสียงจากคลังเสียง ซึ่งมักใช้ในสถานีโทรทัศน์หรือสถานีวิทยุ และมีความคล้ายคลึงกับเสียงในภาพยนตร์สยองขวัญของเกาหลีใต้ ในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ให้เห็นว่า การกระจายเสียงครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ อาจมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเกาหลีเหนือ ได้ยินการกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีใต้ ซึ่งมักประกอบไปด้วยเพลงเค-ป๊อป และข่าวต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายอี ซู-ยง ศาสตราจารย์ด้านการผลิตเสียง จากสถาบันสื่อและศิลปะดงอา กล่าวว่า หากเกาหลีเหนือต้องการกลบเสียงที่ตรงเข้ามาในประเทศ พวกเขาต้องกระจายเสียงในทิศทางเดียวกัน แต่เกาหลีเหนือกลับกระจายเสียงในทางตรงกันข้าม ซึ่งมันดูเหมือนเป็นการสร้างความเจ็บปวดให้กับประชาชนในเกาหลีใต้มากกว่า.
เครดิตภาพ : AFP
เลนซ์ซูม