เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมาร และเจ้าชายอับดุลอาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย ประกาศต่อที่ประชุม แผนริเริ่มซาอุดีสีเขียว หรือ เอสจีไอ (Saudi Green Initiative : SGI) ในกรุงริยาด เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า ซาอุดีอาระเบีย ประเทศแกนนำของกลุ่มโอเปก มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมกับประชาคมโลก ต่อสู้กับปัญหาภาวะโลกร้อน และการดำเนินการตามแผนของซาอุดีอาระเบีย จะไม่ให้กระทบเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก

เอสจีไอ เป็นส่วนหนึ่งของ แผนริเริ่มตะวันออกกลางสีเขียว หรือ เอ็มอีจีไอ (Middle East Green Initiative : MEGI) โครงการตามพระดำริของเจ้าชายโมฮัมเหม็ดเช่นกัน ในการนำพากลุ่มประเทศในตะวันออกกลางและโลกอาหรับ ต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน

การประชุมเอสจีไอมีขึ้น ก่อนการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) ครั้งที่ 26 หรือ คอป 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ ในสกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-12 พ.ย. ซึ่งวาระหลักของการประชุมอยู่ที่ ความตกลงลดการปล่อยคาร์บอนมากกว่าที่แต่ละประเทศตั้งเป้าหมายไว้

Reuters

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด กล่าวต่อที่ประชุมเอสจีไอ ผ่านคลิปวิดีโอว่า ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมาย บรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ ภายในปี 2603 ภายใต้โครงการเศรษฐกิจคาร์บอนหมุนเวียน (circular carbon economy program) ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียจะยังคงบทบาทนำ ในการเสริมความมั่นคง และเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก

ซาอุดีอาระเบียจะเข้าร่วมแผนปฏิบัติการโลก ในการลดการปล่อยก๊าซมีเทนลง 30% จากระดับของปี 2563 ภายในปี 2573 ที่ทั้งสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) กำลังเร่งดำเนินการ

นายจอห์น แคร์รี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และปัจจุบันรับหน้าที่ผู้แทนพิเศษประธานาธิบดีสหรัฐ ฝ่ายกิจการปัญหาโลกร้อน กำหนดจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด เอ็มอีจีไอ ที่กรุงริยาด ในวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา

เจ้าชายอับดุลอาซิส กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียในฐานะหนึ่งในประเทศร่วมลงนามใน “ความตกลงปารีส” ได้ยื่นเสนอแผนเป้าหมาย การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด หรือ เอ็นดีซี (nationally determined contributions : NDC) ไปแล้ว โดยสารสำคัญในแผน เอสจีไอ ของประเทศคือ ขะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน 278 ล้านตันต่อปี ให้ได้ภายในปี 2573 จากเป้าหมายเดิมปีละ 130 ล้านตัน

เดือน มี.ค.ปีนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียประกาศจะลดการปล่อยคาร์บอน กว่า 4% ของเป้าหมายทั่วโลก นอกจากนั้น ยังจะผลิตพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในประเทศ 50% จากแหล่งหมุนเวียนภายในปี 2573 และปลูกต้นไม้ “หลายพันล้านต้น” ในประเทศซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย

เศรษฐกิจซาอุดีอาระเบียยังต้องพึ่งพารายได้จากน้ำมันอย่างมาก เนื่องจากแผนสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาน้ำมัน ไม่คืบหน้าตามเป้าหมาย

เจ้าชายอับดุลอาซิส กล่าวว่า ไฮโดรคาร์บอนยังมีความจำเป็น โลกยังต้องใช้น้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบีย ต่อไป ในช่วงหลายทศวรรษข้างหน้า

เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคอร์บอนเป็นศูนย์ของซาอุดีอาระเบีย อาจบรรลุก่อนถึงปี 2603 แต่ซาอุดีอาระเบียต้องใช้เวลาดำเนินการ “อย่างเหมาะสม”.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS