“ประเด็นสำคัญคือ เราดำเนินการกับข้อมูลเท็จอย่างจริงจัง ซึ่งแม้จะมีองค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง และเราติดต่อกับองค์กรบางแห่งแล้ว แต่เราก็แผนที่จะเรียนรู้จากองค์กรอื่น ๆ อีกมากมาย” ซัคเคอร์เบิร์ก ระบุในโพสต์ส่วนตัวบนเฟซบุ๊ก

ทว่าแปดปีต่อมา ซัคเคอร์เบิร์กไม่แสดงความขอโทษอีกต่อไป โดยเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา เขาประกาศว่า เมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, วอตส์แอปป์ และเทรดส์ ได้ยุติการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และกลับสู่รากเหง้าของการแสดงออกอย่างเสรี โดยให้เหตุผลว่า ระบบตรวจสอบข้อเท็จจริง นำไปสู่ “การเซ็นเซอร์มากเกินไป”

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดของซัคเคอร์เบิร์ก โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาออกห่างจากแนวทาง “ยอมรับความผิดพลาด” ต่อปัญหาต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ของเขา ซึ่งความเหนื่อยหน่ายกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์บริษัทที่ไม่หยุดหย่อน ทำให้เขาบอกกับคณะผู้บริหารที่ใกล้ชิดว่า เข้าต้องการกลับไปใช้แนวคิดเดิมเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูด ซึ่งรวมถึงการกลั่นกรองเนื้อหาที่ผ่อนปรนลง

อนึ่ง เมตาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเครื่องมือตรวจสอบความโปร่งใสที่เรียกว่า “คราวด์แทงเกิล” (CrowdTangle) ซึ่งช่วยให้นักวิจัย นักวิชาการ และนักข่าว สามารถติดตามทฤษฎีสมคบคิดและข้อมูลเท็จบนเฟซบุ๊ก ได้หายไปแล้ว ส่วนทีมตรวจสอบความซื่อสัตย์ในการเลือกตั้ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นกลุ่มผู้สันทัดกรณีที่ให้ความสำคัญต่อประเด็นเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียงโดยเฉพาะ ก็ถูกยุบเป็นทีมตรวจสอบความซื่อสัตย์ทั่วไป

ขณะเดียวกัน ซัคเคอร์เบิร์กส่งเสริมความพยายามด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในเมตาเวิร์ส และการให้ความสำคัญกับปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) อีกทั้งสื่อสังคมออนไลน์ของเขา ก็เปลี่ยนไปในทิศทางที่ผ่อนคลายกว่าเดิม และดูไม่เป็นทางการมากนัก

“สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ซัคเคอร์เบิร์กรู้สึกว่า สังคมยอมรับมุมมองเสรีนิยมแบบเอียงขวาที่เขามีมาโดยตลอดมากขึ้น ซึ่งมันทำให้เขาหวนคืนสู่จุดเริ่มต้นทางการเมืองของตัวเอง” น.ส.เคที ฮาร์บาธ ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี “แองเคอร์ เชนจ์” และอดีตพนักงานของเฟซบุ๊ก กล่าว

ทั้งนี้ ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวว่า ผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงมีอคติทางการเมืองมากเกินไป และทำลายความไว้วางใจมากกว่าที่พวกเขาสร้างไว้ ยิ่งไปกว่านั้น การประกาศยุติการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังสะท้อนถึงการร้องเรียนที่มีมาอย่างยาวนานจากพรรครีพับลิกันของทรัมป์ และนายอีลอน มัสก์ เจ้าของแพลตฟอร์ม “เอ็กซ์” ซึ่งหลายคนในฝ่ายอนุรักษนิยมมองว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง ถือเป็นการเซ็นเซอร์

“ผมคิดว่า การคำนวณที่ผิดพลาดทางการเมือง เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมานานถึง 20 ปี และมันอาจต้องให้เวลาอีกนับสิบปี ในการทำให้แบรนด์ของบริษัทกลับไปอยู่ในจุดที่ผมต้องการ ซึ่งเราจะผ่านมันไปได้ และเราจะกลับมาแข็งแกร่งมั่นคงยิ่งกว่าเดิม” ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางพอดแคสต์.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP