การเมืองมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง สำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ล็อคเป้าไปที่ “พ่อนายกรัฐมนตรี” ผู้มีบารมีตัวจริงในคณะรัฐมนตรี โดยวันนี้ “ทีมการเมืองเดลินิวส์” จึงต้องมาพูดคุยกับ “ซามูไรกฎหมาย” อ.ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาเปิดออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อย ก่อนถึงวันที่ 24 มี.ค.นี้ ซึ่งมีการตีปี๊บว่า การอภิปรายฯครั้งนี้“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรค จะนำทีม พปชร. ลุยเองเลยหรือไม่
โดย “อ.ไพบูลย์” เปิดประเด็นไฮไลท์การอภิปรายฯครั้งนี้ ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมทัพสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างสมบูรณ์ที่สุด “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรค เป็นผู้ดูและเอง และจะเป็นผู้นำการอภิปรายเปิดด้วย ต่อจากผู้นำฝ่ายค้าน โดยให้ความสำคัญและการเอาใจใส่กับการเตรียมประเด็นการอภิปรายมาก เมื่อพปชร. มาทำหน้าที่ฝ่ายค้านมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็ต้องชี้ให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงต้องมีการนำเสนอหลักฐานต่างๆ ให้สมบูรณ์ ก็คิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ที่นำโดย พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค จะทำให้ภาพของพรรค พปชร. เป็นที่มุ่งหวังของประชาชนได้

@ ถือเป็น ว่าเป็นการไว้ลาย “เสือเฒ่าบูรพาพยัคฆ์”
เป็นการไว้ลาย อะไรก็สุดแล้วแต่ ซึ่งในทางการเมืองต้องถือว่าพล.อ.ประวิตร คือนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ เป็นนักการเมืองที่มีตำนานของท่านเอง ซึ่งเที่ยวนี้ก็แสดงออกว่า “พล.อ.ประวิตร”ยังอยู่ในระหว่างที่ปฏิบัติการในฐานะนักการเมือง เป็นหัวหน้าพรรคอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามเสียงครหาต่างๆ ว่า ไม่พร้อมบ้าง จะถอดใจบ้าง อะไรต่างๆ ซึ่งมันจบไปหมดแล้ว
“ตอนนี้มีแต่ท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เข้มแข็ง มุ่งมั่นที่จะทำงาน เพื่อที่จะให้พรรค พปชร. มี สส.ให้มากที่สุดในยามเลือกตั้งที่จะถึง ซึ่งท่านบอกไว้ว่าไม่น้อยกว่า 60 คน เพื่อที่จะให้เป็นที่พึ่งหวัง และช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่”
เรามั่นใจถึงการเอาใจใส่ของ “หัวหน้าพรรค” ที่เป็นศูนย์กลางและศูนย์ของพรรคพปชร. ก็ทำให้ผู้บริหารพรรค สส. คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ร่วมมือกัน ทำงานอย่างชนิดที่ผมเองก็ไม่เคยเห็น การตื่นตัวในการทำงานได้มากอย่างในขณะนี้ ซึ่งมีการประชุมกันเป็นประจำ ทุกคนมีภาระหน้าที่ มีฝีมือที่จะแสดงกันได้

ข่าวที่ออกมาเป็นการดิสเครดิต การที่ท่านไปออกรายการโทรทัศน์ที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ที่จะได้เห็นพล.อ.ประวิตร โดยตรง ฟังวิธีคิดของท่าน ซึ่งทั้งสีหน้า น้ำเสียง ล้วนแต่มีพลังในการทำงานอย่างมุ่งมั่น ซึ่งตั้งใจต่อยอดทำพรรคถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า
เราไม่ได้ คิดอะไรในเรื่องรัฐบาลนี้แล้ว เพราะว่ารัฐบาลนี้ถึงอย่างไรก็อายุสั้นอยู่แล้ว เละเทะกันไปขนาดนี้แล้ว ไปร่วมไม่ได้เลย การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราก็มุ่งหวังที่จะให้เห็นถึงความบกพร่องของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่สมควรที่จะได้รับความไว้วางใจ ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอีกแล้ว ซึ่งหัวหน้าอภิปรายเองก็คงต้องรอฟัง แต่รับรองว่าก็คงจะเป็นที่ติดตามและใจจด ใจจ่อหลายฝ่าย
ในส่วนของผมที่เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็พอใจในการที่หัวหน้าพรรคได้วางกลยุทธ์แล้วดำเนินการมาในแนวนี้ ทำให้พรรคเราเข้มแข็งมาก
@ พรรคพลังประชารัฐ มีหมัดเด็ดอยู่ 4 เรื่อง เปิดหนังตัวอย่างก่อนได้หรือไม่
จะพูดว่าหมัดเด็ดแค่ 4 เรื่องก็ไม่ใช่ มีมากกว่านั้น ก็ไล่ไปตั้งแต่ 1.เรื่องมี นายกรัฐมนตรี ไปครอบครองที่ดินธรณีสงฆ์ 2.เรื่องนโยบายกาสิโน ไปเปิดบ่อน 3.กรณีเรื่องชั้น 14 ของบิดานายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ประชาชนทั้งประเทศเขารับไม่ได้ และที่สำคัญมากอีกเรื่องที่ 4.เรื่องที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยในพื้นที่ทางทะเลของประเทศไทย ก็คือเรื่องเกี่ยวกับเอ็มโอยู 2544 ที่มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยบิดาของนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ ชินวัตร แล้วตอนนี้นายกรัฐมนตรี ก็มาดำเนินการต่อ ซึ่งอันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นการทำให้เราสูญเสียอธิปไตยทางทะเล เป็นเนื้อที่ถึง 1.6 หมื่นกว่าตารางไมล์ ซึ่งรวมแล้วก็ 10 กว่าล้านไร่
ดังนั้นนอกจาก 4 เรื่องนี้ เรายังมีเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ สุจริต ปัญหาของตัวท่านนายกรัฐมนตรีเอง ในเรื่องเกี่ยวกับท่านทรัพย์สินเยอะก็จริง แต่ว่าก็มีทรัพย์สินที่มีปัญหาอยู่พอสมควร ก็คงจะมีหลายๆ ประเด็นที่ต้องรอฟัง เพราะผู้อภิปรายของพรรค พปชร.เราก็มีอยู่หลายคน ส่วนหัวหน้าพรรคจะอภิปรายภาพรวม เราจะทำหนาที่ฝ่ายค้านกันแบบสมบูรณ์แบบ เมื่อเราเป็นฝ่ายค้านต้องทำให้ดีที่สุด เพราะจะเป็นแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งหน้าเราก็จะเป็นรัฐบาล

@ มีคนมองว่า “นายกฯ” บริหารประเทศ 6-7 เดือน อาจจะบอกว่าได้ว่าเพิ่งมาทำงาน จะไปอภิปรายอะไร
“อภิปรายกันได้อยู่แล้ว ท่านเตรียมของท่านอย่างดีอยู่แล้ว ผมมั่นใจว่าสำหรับผู้บริหารประเทศในระดับนายกรัฐมนตรีที่มีปัญหา อยู่มาแม้แต่วันเดียวก็นานเกินไปแล้ว ประเทศเสียหาย 1 วันก็นานเกินไปแล้วครับ ประเทศจะเสียหาย”
@ นายกฯ ตระกูล “ชินวัตร” เป็นแค่ “หุ่นเชิด” ของนายทักษิณ จะกลายมาเป็นจุดอ่อนซ้ำรอยเหมือนอย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือไม่
ก็เป็นทั้ง “จุดอ่อน” เป็นทั้ง “จุดที่ไม่ถูกต้อง” ก็คือ “ไร้ความสามารถ” และต้องอาศัยเป็นเหมือนคล้ายๆ “หุ่นเชิด” ถูกทำให้เป็นหุ่นเชิด การเป็นหุ่นเชิดก็คือแสดงถึงความด้อยความสามารถสูงสุดแล้ว การเป็นหุ่นเชิด เพราะแสดงว่าไม่มีความสามารถในตัวเองเลย
ผมว่าการอภิปรายฯตามหลักก็ไม่ควรจะต้องเป็น 1 วัน เคยมีหรืออย่างน้อยก็ต้อง 2 วันขึ้นไป และถ้าจะโหวตทันทีเลย คือ เขาก็คิดไปได้ แต่อย่างนี้คือความล่มสลายของความน่าเชื่อถือของพรรคแกนนำรัฐบาลจากพฤติการณ์เหล่านี้ ไม่ใช่มีพฤติการณ์เฉพาะเรื่องนี้ เรื่องอื่นก็มีเยอะแยะที่เป็นพฤติการณ์ที่ทำให้ลักษณะของการบริหารราชการแผ่นดินบิดเบือนไป

@เป็นเพราะการเอาใจ “นายกฯ” และ “พ่อนายกฯ” เกินไป
นอกจากเอาใจแล้ว เขาอาจจะรู้จริงๆ ว่าตัวนายกรัฐมนตรี ของเขามีแผลเยอะ แล้วคงจะรับมือไม่ได้ จึงพยายามลดเวลาลง เพราะรู้ว่าถ้ายืนนานกว่านั้นเดี๋ยวโดนน็อก แต่ผมว่าจะเท่าไรก็โดนน็อกอยู่แล้ว
@ มั่นใจหรือไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังการอภิปราย
สำหรับประชาชนก็ขอให้ติดตามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่พรรคพปชร. จะไปแสดงออกให้เห็นถึงความพร้อมของพรรค ในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ซึ่งมีปัญหามากที่สุดในประวัติศาสตร์ และขอให้ประชาชนสบายใจว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามพรรค พปชร.ยังจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน ในการดูแลผลประโยชน์ และปกป้องไม่ให้มีการกระทำทุจริตเชิงนโยบาย ทุจริตมากมายมหาศาล ผมมั่นใจว่ามีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน