“ที่ผ่านมาพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้ร่วมงานกับพันธมิตรอย่าง เซเว่นฯ จนในที่สุดก็ได้พัฒนาสินค้าขนมไทยโบราณร่วมกันกับทีมเซเว่นฯ ภายใต้โจทย์สำคัญว่าสินค้าต้องเหมาะกับคนยุคใหม่ จนกลายมาเป็นขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอม ที่ส่งขายเฉพาะในร้านเซเว่นฯ เท่านั้น โดยหลังจากวางจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ ได้แค่ 2 เดือน แต่กลับสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 4 แสนบาทต่อวันเลยทีเดียว”  โจ้-ประวิทย์ เครือทรัพย์ วัย 42 ปีประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพชรบุรี ไทยดีเสิร์ท จำกัด ทายาทรุ่นที่ 3 แบรนด์ “ลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์” กล่าวถึง “สินค้า SME ขายดี” อย่าง “ขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอม” ที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ เซเว่น อีเลฟเว่ มีส่วนร่วมพัฒนาด้วย โดยผู้ประกอบการรายนี้ยังเคยได้รับรางวัล Inventor Awards จากเวที  7 Innovation Awards 2024  มาแล้วด้วย 

ทั้งนี้  หากเอ่ยชื่อ “โรงงานลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์” เรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใครในวงการขนมหวานเมืองเพชรบุรี โดย โจ้-ประวิทย์ เล่าว่า ธุรกิจนี้เริ่มจากตำรับขนมที่คุณย่ามักจะทำในงานบุญงานวัด ต่อมาสูตรนี้ได้ตกทอดสู่รุ่นคุณพ่อซึ่งเป็นยุคที่เริ่มต้นทำขนมขาย โดยขณะนั้นยังไม่มีชื่อแบรนด์ แต่เป็นที่รู้จักดีในเพชรบุรี จนช่วงที่เขาอายุ 28 ปี เขาคิดว่าขนมเพชรบุรีไม่ควรขายได้แค่ที่เพชรบุรี ทำให้ช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่กลับบ้าน เมื่อจะกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ เขาจึงหิ้วขนมที่คุณพ่อทำนำกลับไปขายที่ออฟฟิศด้วย ปรากฏขายดีมาก เขาจึงคิดผันตัวมาทำธุรกิจนี้แบบเต็มตัวตั้งแต่ตอนนั้น โดยหลังจากคุณพ่อส่งไม้ต่อให้แล้ว เขาก็เริ่มปรับปรุงแพ็คเกจให้สวยงามขึ้น กับนำชื่อของคุณพ่อ คือ “ลุงอเนก” มาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ พร้อมกับได้ตั้งโรงงานที่หมู่บ้านลาดโพธิ์ ต.สํามะโรง จ.เพชรบุรี  เพื่อผลิตขนมหม้อแกง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ถ้วยฟู โดยโรงงานนี้ผ่านการรับรองทั้งมาตรฐาน GHP/HACCP มาตรฐาน อย. และมาตรฐานอาหารฮาลาลด้วย

“นอกจากความต้องการต่อยอดธุรกิจที่บ้านแล้ว อีกความตั้งใจก็คืออยากทำให้ขนมหม้อแกงเป็นที่รู้จักมากขึ้น เหมือนกับที่ทั่วโลกรู้จักต้มยำ ผัดไทย ข้าวเหนียวมะม่วง เพราะมองว่าขนมเมืองเพชรบุรีไปได้ไกลกว่านี้”  ทายาทรุ่นที่ 3 กล่าว พร้อมเล่าอีกว่า เขาเป็นขนมเมืองเพชรบุรีเจ้าแรกที่จำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ นอกเหนือจากจำหน่ายผ่านช่องทางอื่น ๆ เช่น ส่งขายทั่วประเทศทาง รถ บขส. รถทัวร์ รถตู้ รวมถึงขายปลีกและขายส่ง ตลอดจนรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับคนที่ต้องการนำขนมไทยไปติดแบรนด์ตัวเองด้วย

ขณะที่การได้มาพัฒนาสินค้าร่วมกับทางทีมเซเว่นฯ นั้น เรื่องนี้โจ้เล่าว่า ก่อนที่จะได้ร่วมงานกับทางเซเว่น อีเลฟเว่น เขาต้องพยายามอย่างหนักที่จะนำสินค้าไปเสนอขายในร้านเซเว่นฯ เพราะเขามองว่าช่องทางผ่านร้านเซเว่นฯ นั้น จะช่วยให้สินค้าที่รู้จักและกระจายสินค้าได้กว้างมากขึ้น และในที่สุดทางแบรนด์ก็ได้ร่วมพัฒนาสินค้ากับทีมเซเว่นฯ จนกลายมาเป็น “ขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอม” ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรกที่ผลิตและขายเฉพาะร้านเซเว่นฯ ในราคา 29 บาท โดยตั้งแต่จำหน่ายในร้านเซเว่นฯ ตั้งแต่ 16 ก.พ. 2568 แค่สัปดาห์แรกก็หมดในเวลารวดเร็ว จนต้องเพิ่มกำลังผลิตให้เพียงพอกับความต้องการที่มีสูงถึง 14,000 ชิ้นต่อวัน

ขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอมลุงอเนกในเซเว่น

“เสน่ห์ของขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอมลุงอเนกอยู่ที่การใช้วัตถุดิบชุมชนที่เป็นของดีของเมืองเพชรบุรี ทั้งน้ำตาลโตนด น้ำตาลมะพร้าว ไข่เป็ด เผือกหอม ซึ่งขนมจะถูกผลิตในระบบปิดตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการผลิตขนมหม้อแกงเพื่อจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ นั้น เราทุ่มทุนด้วยการนำเข้าอุโมงค์อบขนมขนาดใหญ่เข้ามาเพื่อให้สามารถผลิตขนมได้จำนวนมาก โดยที่ยังควบคุมมาตรฐานทั้งความอร่อยและคุณภาพได้ตลอดทุกขั้นตอน ซึ่งอุโมงค์อบขนมนี้ช่วยให้ควบคุมสีขนมหม้อแกงทุกชิ้นที่วางขายในร้านเซเว่นฯ ให้สีไม่อ่อนหรือเข้มเกินไป ซึ่งปัจจุบันขนมหม้อแกงที่ขายในร้านเซเว่นฯ มียอดขายมากกว่า 400,000 บาทต่อวัน”  โจ้-ประวิทย์ ทายาทรุ่นที่ 3 กล่าว

พร้อมทิ้งท้ายถึงอีกความตั้งใจว่า  นอกจากจะต้องการยกระดับวงการขนมหวานของเพชรบุรีให้ไปได้ไกลแล้ว สิ่งที่มุ่งมั่นไม่แพ้กันก็คืออยากช่วยให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพในพื้นที่มากขึ้น โดยปัจจุบันที่โรงงานมีพนักงาน 120 คน ซึ่งกว่า 80% คือคนในท้องถิ่น และนอกจากนี้ วัตถุดิบหลักที่ใช้ทำขนม อาทิ ไข่เป็ด ก็เลือกใช้จากผู้ผลิตในท้องถิ่นและชุมชนใกล้ ๆ โดยปัจจุบันต้องใช้ไข่เพื่อทำขนมถึงวันละ 20,000 ฟอง ทั้งนี้ เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนซึ่งจะส่งผลดีต่อไปถึงเศรษฐกิจฐานรากด้วย เนื่องจากเขาเชื่อว่า ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่แค่ผลผลิตเท่านั้น แต่อยู่ที่การได้เติบโตไปพร้อมกับท้องถิ่นและชุมชนมากกว่า.