บริษัท เลชานซ์ ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ยังคงผลิตช็อกโกแลต “โมสาร์ทคูเกล” ด้วยมืออย่างพิถีพิถัน ก่อนใส่ในบรรจุภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่มีรูปภาพของ “โวล์ฟกัง อมาเดอุส โมสาร์ท” นักประพันธ์เพลงชาวออสเตรียที่มีชื่อเสียงโด่งดังในศตวรรษที่ 18
แต่ในปัจจุบัน เลชานซ์ถูกกล่าวถึงน้อยลง และจำนวนแบรนด์ช็อกโกแลตที่เพิ่มขึ้น ทำให้ลูกบอลช็อกโกแลตซึ่งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ต่างชื่นชอบ มักไม่มีการผลิตในออสเตรียอีกต่อไป
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท มอนเดลีซ ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารของสหรัฐ ย้ายฐานการผลิตจากเมืองซาลซ์บูร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโมสาร์ท ไปยังยุโรปตะวันออก ส่งผลให้เกิดการถกเถียงทางการตลาดที่ดุเดือดและยาวนานอีกครั้ง
“มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะโมสาร์ทคูเกล เป็นผลิตภัณฑ์ของออสเตรีย” นายโวล์ฟกัง เลชานซ์ หัวหน้าผู้ผลิตขนม และเจ้าของบริษัท วัย 75 ปี กล่าว
บริษัท เลชานซ์ ดำเนินขั้นตอนอันทรงเกียรติถึง 10 ขั้นตอน ในการทำโมสาร์ทคูเกล 1 ลูก และขนมเหล่านี้ถูกทำแบบสดใหม่ตามคำสั่งซื้อ ประมาณ 20,000 ลูกต่อปี
ทั้งนี้ โมสาร์ทคูเกล ถูกคิดค้นโดยนายพอล เฟือสท์ เชฟทำขนมในเมืองซาลซ์บูร์ก เมื่อปี 2433 ซึ่งนายมาร์ติน เฟือสท์ เหลนของพอล เป็นเจ้าของธุรกิจคนปัจจุบัน และบริษัทผลิตโมสาร์ทคูเกลทำมือประมาณ 3.5 ล้านลูกต่อปี โดยยังคงตั้งอยู่ในเมืองนี้ และยังใช้สูตรดั้งเดิม
แม้ช็อกโกแลตของเฟือสท์ สามารถสั่งซื้อในทางออนไลน์ และมีการจัดส่งทั่วสหภาพยุโรป (อียู) แต่ความนิยมที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดสินค้าลอกเลียนและผลิตภัณฑ์ปลอมมากมาย ซึ่งมีความแตกต่างในด้านไส้ใน บรรจุภัณฑ์ และชื่อ ตลอดจนการเรียกร้องและข้อพิพาททางกฎหมาย
ครอบครัวเฟือสท์ ต้องต่อสู้เป็นเวลานานหลายปี เพื่อให้ได้รับการยอมรับว่า ขนมของพวกเขาคือ “โมสาร์ทคูเกลซาลซ์บูร์กสูตรดั้งเดิม” เนื่องจากบรรพบุรุษของพวกเขาทำผิดพลาดที่ไม่ปกป้องผลงานการสร้างสรรค์ตั้งแต่แรก ส่งผลให้ช็อกโกแลตโมสาร์ท ไม่มีแหล่งกำเนิดสินค้าที่ได้รับการคุ้มครองของอียู สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์บางแห่ง
ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา โมสาร์ทคูเกลถูกผลิตที่โรงงานแห่งหนึ่งในเมืองซาลซ์บูร์ก แต่โรงงานดังกล่าวปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว หลังจากเกือบล้มละลายมานานหลายปี
อนึ่ง มอนเดลีซอ้างถึงราคาโกโก้และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น โดยในปัจจุบัน ช็อกโกแลตโมสาร์ทของมอนเดลีซ ขายในราคาลูกละประมาณ 0.5 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16 บาท) ขณะที่โมสาร์ทคูเกลทำมือของเลชานซ์ 1 ลูก มีราคาสูงกว่าถึง 7 เท่า
อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน “โปร-จี” ซึ่งเป็นตัวแทนของคนงานมากกว่า 60 คนที่ถูกเลิกจ้างเมื่อโรงงานในเมืองซาลซ์บูร์กปิดตัว วิพากษ์วิจารณ์ว่ามอนเดลีซ “ขาดความโปร่งใส” เกี่ยวกับฐานการผลิตแห่งใหม่ พร้อมกับเสริมว่า ห่วงโซ่อุปทานของไข่ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ดีกว่านั้นด้วยซ้ำ.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AFP