มูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) มอบรางวัล การประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทอง ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ครั้งที่ ๗ พุทธศักราช ๒๕๖๗

โดยมี มูลนิธิสิริวัฒนภักดี และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชนให้การสนับสนุนกิจกรรมมูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) อย่างต่อเนื่องสู่ปีที่ ๑๑ ด้วยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของศิลปวัฒนธรรมประเพณีในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของดนตรีไทย พร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมโครงการจัดประกวดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยภายในงานมี อาจารย์มาลินี สาคริก ประธานกรรมการมูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ ( ศร ศิลปบรรเลง) เป็นประธานในพิธี คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ผศ.ดร.นุชนาถ มั่งคั่ง ผศ.ดร.ธงรบ รื่นบันเทิง อาจารย์ภูธร ภูมะธน คุณสุรพล เศวตเศรนี คุณนิติกร กรัยวิเชียร และ อาจารย์อัษฎาวุธ สาคริก ร่วมด้วย

ทั้งนี้ เด็กหญิงเปรมอัปสร อำนวยชัยศิลป์ ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประเภท ซอด้วง ระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพมหานคร เผยว่า รู้สึกดีใจมากๆและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประเภทซอด้วง ขอบคุณทุกแรงสนับสนุนจากครอบครัว ครูอาจารย์ และทุกคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ และรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่และรักษาความเป็นไทยที่บรรพบุรุษของเราได้สร้างขึ้นมา และเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมของประเทศไทยอย่างหนึ่งที่ทำให้เด็กและเยาวชนเปิดใจรักดนตรีไทยมากขึ้น ทำให้หลายๆคนมองเห็นเสน่ห์ของการเล่นดนตรีไทย
“ หนูเริ่มฝึกฝนเล่นเครื่องดนตรีไทยซอด้วงตั้งแต่อายุ ๖ ขวบ การฝึกฝนดนตรีไทยไม่ง่ายเลย บางครั้งก็ยาก เหนื่อยและท้อ แต่อยากให้น้องๆ อย่าหยุด อย่าเพิ่งยอมแพ้ เพราะทุกความพยายามที่เราทุ่มเท จะพาไปสู่ความสำเร็จที่งดงามเสมอ ขอขอบพระคุณมูลนิธิสิริวัฒนภักดี และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุน รวมถึงเวทีการประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทอง เวทีนี้ ทำให้หนูได้ประสบการณ์ที่ดี และมีโอกาสได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่มีคุณค่ามากในชีวิต”
ทางด้าน อาจารย์อัษฎาวุธ สาคริก กล่าวว่า การประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทองดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ สำหรับครั้งนี้ถือว่าเป็นการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ ๗ ปีนี้ถือเป็นปีที่มีผู้สมัครเข้าร่วมประกวดมากที่สุด มีจำนวนถึง ๒,๓๙๑ คน จากทั่วประเทศ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น ๖ ประเภทเครื่องดนตรี ในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

“เวทีนี้มิใช่เพียงแค่การแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะทางดนตรีของเยาวชนเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญที่ช่วยกระตุ้นและส่งต่อพลังของสังคมดนตรีและวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่อง การประกวดดนตรีไทยศรทองได้สร้างเครือข่ายที่กว้างขวาง ครอบคลุมถึงครูผู้สอน ช่างฝีมือผู้สร้างเครื่องดนตรี รวมถึงครอบครัวของเยาวชนผู้เข้าร่วม ที่ต่างมีส่วนช่วยกันรักษาและพัฒนาศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่”
สำหรับกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องจากการประกวดดนตรีไทยศรทองคือ กิจกรรมค่ายเยาวชนดนตรี ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้และสัมผัสกับวิถีชีวิต สังคม ทรัพยากรธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น พระนครศรีอยุธยาและสมุทรสงคราม ผ่านการเล่นดนตรีที่เชื่อมโยงกับบริบทท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความเข้าใจลึกซึ้งและความรักในวัฒนธรรมไทย ขอขอบพระคุณ มูลนิธิสิริวัฒนภักดี และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เครือข่ายนักดนตรีไทย ภูมิปัญญาชาวบ้าน และผู้ปกครองครูบาอาจารย์ ที่เป็นเสาหลักสำคัญในการสร้างเยาวชนดนตรีไทยให้ก้าวไกลในอนาคต ท้ายที่สุดที่สำคัญสุดคือ เด็กๆ เยาวชนผู้เป็นอนาคตของชาติ ที่จะเติบโตเป็นผู้สืบสานและสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทยให้มั่นคงและยั่งยืนต่อไปในทุกยุคสมัย เราขอต้อนรับและขอบคุณทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวศรทองในปีนี้และปีต่อๆไป
โครงการประกวดบรรเลงดนตรีไทยศรทอง ชิงถ้วยพระราชทาน ยังได้รับการสนับสนุนจาก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมถึงพันธมิตร และบุคลากรด้านดนตรีไทยมากมาย ด้วยความปรารถนาที่มุ่งมั่นธำรงรักษามรดกดนตรีไทย สืบไป.