ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน.. แม้คนเคยรวยมีพร้อมทุกอย่าง ธุรกิจใหญ่โต ไม่ต้องพบเจอเรื่องขัดสน แต่พอโควิด-19 ระบาด บางคนธุรกิจพังแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ยิ่งธุรกิจสถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้านอาหาร ที่คอยสร้างความสุขให้ผู้อื่น พากันล้มระเนนระนาดถึงขั้นต้องปิดตัวลงไปไม่น้อย

หลายคนล้มแล้วรีบลุกตั้งหลักปรับตัวหาอาชีพใหม่ อะไรที่จะสร้างรายได้ก็ทำไปก่อนเพื่อความอยู่รอด พอเริ่มจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ยังพอเดินต่อไปได้อีก อย่างเช่น นายวีระ ช่วยรอด อายุ 48 ปี กับ ไลวัลย์ หรือ น.ส.ไลวัลย์ ศรีวาโย อายุ 51 ปี ภรรยาคู่ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขเคียงข้างกันมาตลอด

สองสามีภรรยาอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 329 หมู่ 1 ต.ลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ แต่เดิม “วีระ” เป็นเจ้าของร้าน กีตาร์บาร์ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวบนเกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา มานานกว่า 10 ปี เป็นทั้งเจ้าของร้าน ทั้งเล่นดนตรี บริการให้ความสุขกับลูกค้า แขกที่เคยมาแล้วส่วนใหญ่จะประทับใจต้องกลับมาเที่ยวอีกประจำ

วีระ มีภรรยาคอยช่วยงานที่ร้าน ทั้งคู่มีรายเป็นกอบเป็นกำ มีเงินมีทองอยู่ได้ไม่ลำบาก มีลูกน้องนับสิบคน แต่พอเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหน้ามือเป็นหลังมือจนแทบตั้งตัวไม่ทัน

วีระ เล่าว่า ตั้งแต่เจอวิกฤติโควิดระลอกแรก ร้านปิดต้องปล่อยให้ลูกน้องกลับบ้าน เพราะไม่รู้ว่าร้านจะปิดยาวแค่ไหน แต่ก็ยังคงเช่าร้านอยู่ ตอนที่ออกมาจากบาร์ต้องค้างค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ต้องขอผ่อนเขาหมด เพราะไม่มีรายได้เลย พยายามจะยื้อเวลาเพราะก็มีหวังว่าเดี๋ยวสถานการณ์คงจะดีขึ้น

“ผมกับภรรยาช่วยกันคิดว่าจะอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้ จึงหันมาขายกล้วยปิ้งเพราะลงทุนน้อย โดยใช้เงินเก็บที่มีอยู่สู้ต่อหวังประคองชีวิต และยังหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นโดยเร็ว เริ่มจากขายกล้วยปิ้ง สักพักก็หาเสื้อผ้ามือสองไปเปิดท้ายขายของบ้าง มันก็มีทางของมันไปเรื่อยๆ และพอมีรายได้เข้ามาบ้าง”

ผ่านมาร่วม 2 ปี โควิดระบาดถึง 3 รอบ วีระ ยอมรับว่า เขาไม่สามารถจะแบกรับค่าเช่าที่บาร์ต่อไปได้อีกแล้ว สุดท้ายก็ต้องย้ายออก แม้ว่าเจ้าของที่จะลดราคาให้ครึ่งหนึ่งก็ตามแต่เขาก็สู้ไม่ไหว

วีระกับภรรยา ได้พากันมาหาที่เช่าอยู่ใหม่ในพื้นที่เกาะลันตาน้อย เปิดร้าน “มิสเตอร์ กีตาร์ การ์เดน” ขายเสื้อผ้ามือสอง และลองทำต้นไม้ขาย เนื่องจากกระแสกำลังแรง โดยเฉพาะไม้ด่าง บอนด่าง

“จากที่ผมไม่เคยสนใจเรื่องต้นไม้ รู้จักแค่งูๆ ปลาๆ ก็เริ่มหันมาศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งจากดูยูทูบ อ่านหนังสือ และสอบถามจากผู้รู้ หลังเปิดร้านมา 6 เดือน ผลตอบรับดีเกินคาด ถึงแม้รายได้จะต่างจากการเปิดบาร์มากแต่ก็พอเลี้ยงครอบครัวได้ ผมอยากบอกคนที่หัวอกเดียวกันว่า บางอย่างถ้าเราไม่ลงมือทำก็จะไม่รู้ว่าเราทำได้หรือไม่ได้” วีระ กล่าว

วีระ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานที่ที่ย้ายมาอยู่ใหม่ทางเจ้าของเดิมซึ่งรู้จักเป็นเพื่อนกันเขาสงสาร เนื่องจากเราไม่มีรายได้ ได้ทำสัญญากัน 3 ปี อยู่ฟรี 3 เดือนแแรก หลังจากนั้นปีแรกคิดค่าเช่า 1,000 บาท ปีถัดไป 2,000 บาท และปีที่สาม 3,000 บาท

ส่วนการจะกลับไปเปิดร้านใหม่หรือไม่นั้น ต้องรอดูสถานการณ์โควิดไปก่อน ว่าจะเบาบางลงหรือว่ากลับมาระบาดซ้ำอีก แต่ตอนนี้สำหรับการเพาะกล้าไม้ ขายเสื้อผ้ามือสองก็สามารถที่จะนำมาเป็นอาชีพได้ ถึงแม้ว่ารายได้ไม่มากแต่ก็เป็นธุรกิจส่วนตัว มีอิสระจึงอาจจะทำเป็นอาชีพหลักต่อไปก็ได้

“ซึ่งถ้าวันนั้นผมท้อแท้สิ้นหวัง ก็คงไม่มีวันนี้อย่างแน่นอนวีระ กล่าวทิ้งท้าย

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย

เรื่องและภาพโดย : วิชัย มังคะลา จ.กระบี่

แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]

[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..