ไม่นาเชื่อนะครับ พออายุเริ่มเยอะแล้ว ร่างกายฟื้นตัวได้ช้าลง โรคและอาการหลายอย่างที่ไม่เคยเป็นก็มาเป็นก็เรียงคิวกันมา ผมบ่นเรื่องไหล่ติด (ยกแขนลำบาก) และนอนไม่ค่อยหลับให้รุ่นน้องฟัง เธอบอกว่าพี่สาวของเธอจบทางด้านแพทย์แผนจีน เก่งเรื่องการฝังเข็มเพื่อรักษาโรค เผื่อผมสนใจจะได้เป็นอีกทางเลือกในการรักษา ผมสนใจครับ เพราะปกติผมจะนวดไทยรีดเส้นให้อาการทุเลาไปบ้าง แต่ยังเจ็บไหล่อยู่ทุกเช้าเวลาตื่นนอน

ผมไปตามนัดที่ Mandarin Clinic แถวพระรามสี่ ได้พบกับคุณหมอออม – พจ.ธนินท์ธร อนันต์สรรักษ์ จบแพทย์จากมหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่งซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแพทย์จีนอันดับ 1 ซึ่งท่านนี้นี่แหละครับ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มและเป็นพี่สาวของรุ่นน้องที่แนะนำมา คุณหมอออมบอกผมว่าที่สนใจเรียนแพทย์แผนจีนคิดว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาตั้งแต่สมัยอากงชอบกินยาจีน ตัวคุณหมอเองบอกชอบดูหนังกำลังภายในตั้งแต่เด็กด้วย

คุณหมอออมบอกผมว่า Mandarin Clinic จะใช้การฝังเข็มเพื่อรักษาโรคและเพื่อเสริมความงาม ในกรณีของผมที่ปวดไหล่และมีอาการนอนไม่หลับจะอยู่ในหมวดรักษาโรค เริ่มต้นจะมีการกรอกประวัติ เรื่องโรคประจำตัว การแพ้ยา และมีพยาบาลมาวัดความดันก่อน คุณหมอจะ “แมะ” จับชีพจร ดูการทำงานของอวัยวะภายใน สอบถามอาการและอธิบายว่าการรักษาแผนจีนไม่จำเป็นต้องฝังเข็มทั้งหมด

เนื่องจากบางคนกลัวเข็ม ก็จะมีการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น กวาซา คือการใช้แผ่นหยกหรือเขาสัตว์มาขูดตรงกล้ามเนื้อที่เป็นพังผืด กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เป็นการขจัดพิษหรือของเสียออกจากทางผิวหนัง หรือการนวดทุยหนา คล้ายการนวดไทย ต่างกันที่ใช้การกดจุดต่าง ๆ ตามเส้นลมปราณซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับการฝังเข็ม มีทั้งหมด 360 จุด กดระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรค ให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดี ถ้าเป็นเด็กเล็กจะเป็นการกดจุดแบบนวดเบา ๆ ก็ช่วยหลายอย่างเช่นกัน เช่น ช่วยให้กินข้าวมากขึ้น ช่วยในการขับถ่าย เป็นต้น

แต่ถ้าใครไม่เคยลองฝังเข็ม คุณหมอออมบอกว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด พร้อมกับโชว์เข็มที่ใช้ให้ผมดูครับ เป็นเข็มที่บางมาก ทำจากสแตนเลสและเป็นสปริง คนไทยมีประสบการณ์การไปฉีดวัคซีนกันมาแล้ว บางคนบอกว่าไม่เจ็บเลย เข็มแทงไปแทบไม่รู้สึก เข็มที่ใช้ฝังเข็มบางกว่านั้นอีกครับเพราะไม่มีรูตรงกลาง และเข้าไปในผิวหนังเพียง 1 เซนติเมตรเท่านั้น ส่วนตรงปลายที่หนา อันนั้นไว้สำหรับให้คุณหมอจับง่าย ๆ ครับ

เด็กก็ฝังเข็มได้ แต่จะไม่ทิ้งเข็มไว้ (ถ้าผู้ใหญ่จะปักคาไว้ 15-20 นาที) ทำเพื่อการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางและส่วนปลาย การหลั่งฮอร์โมนของก้านสมอง ช่วยเรื่องของการพัฒนาการ เด็กที่มีภาวะออทิซึม มีพัฒนาการช้า เดินช้า พูดช้า ปัสสาวะรดที่นอน ช่วยลดความเครียด เด็กที่มีอัมพฤกษ์อัมพาตก็ช่วยได้ การฝังเข็มช่วยในการปรับเพิ่มและลดฮอร์โมนได้ เพิ่มออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ นอนหลับได้ดีขึ้น

ส่วนผู้ชายที่มาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของออฟฟิศซินโดรมหรือไปเล่นกีฬาแล้ว ปวดกล้ามเนื้อ คอ บ่า ไหล่ หลัง ปวดตามข้อต่าง ๆ ข้อเท้าพลิกข้อเท้าแพลง มาฝังเข็มแค่ 2 ครั้งการบวมยุบเลย แต่ถ้าเอ็นขาดอันนั้นต้องไปหาหมอผ่าตัดนะครับ

อีกแบบที่ใช้ในการรักษาและน่าสนใจคือ ครอบแก้ว ผมทักคุณหมอไปว่า ผมเคยเห็นรุ่นพี่โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย มันเป็นวงสีแดง น่าจะเจ็บมากเลย คุณหมอออมบอกว่า จริง ๆ แล้วการรักษาแบบนี้ไม่เจ็บเลย การครอบแก้วมี 2 แบบคือ ใช้น้ำมันและไม่ใช้น้ำมัน การครอบแก้วแบบใช้น้ำมันเหมือนเวลาไปนวดน้ำมัน คือจะชโลมน้ำมันก่อน แล้วนำครอบแก้วไปดูดเส้นที่ถูกกดทับขึ้นมา ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่แตกต่างกับการนวดแบบไทยที่กดขยี้เส้นที่ถูกกดทับ ส่วนการครอบแก้วแบบไม่ใช้น้ำมัน จะเหมือนกับรุ่นพี่ผมเคยทำ คือจะใช้ความร้อนไล่ออกซิเจนออกให้เป็นภายในแก้วเป็นสุญญากาศ แล้วดูดกับผิวหนัง ทิ้งไว้สักพัก แล้วนำแก้วออก จะเป็นวงที่เส้นเลือดฝอยแตก ดูเหมือนเจ็บแต่ไม่เจ็บ ถือเป็นการทำลายของเดิมเพื่อสร้างเติมของใหม่ ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เลือดลม (หรือชี่) พลังงานในร่างกายหมุนเวียน

พอคุณหมออธิบายจบ ผมขอทำการรักษาทันทีครับ คุณหมอให้ผมเปิดหัวไหล่ข้างที่เจ็บ เช็ดแอลกอฮอล์ให้ก่อนทั่วบริเวณ ให้ดูเข็มที่จะใช้ คุณหมอออมบอกว่าสำหรับคนที่ฝังเข็มครั้งแรกจะใช้จำนวนเข็มไม่เยอะ เพียง 3-4 เข็มเท่านั้น เพราะการลงเข็มจะเป็นการบล็อกพลังงาน ถ้าลงมากเกินไปจะเกิดการชาและเวียนหัวได้ ผลลัพธ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับผมเมื่อเข็มแรกถูกแทงลงไป มันรู้สึกครับ แต่เป็นความเจ็บที่อยู่ในระดับที่ทนได้ (ผมว่าคุณหมอมือเบาด้วยแหละ) พอเข็มต่อไปก็สบาย หลังจากฝังเข็มครบแล้ว คุณหมอกระตุ้นด้วยไฟฟ้า เปิดเครื่องให้ดูด้วยว่าเป็นไฟฟ้าอ่อน ๆ แบบใส่ถ่านนะ ไม่ได้ใช้ไฟบ้าน เพื่อช่วยในเรื่องของการคลายกล้ามเนื้อ หลังจากนำเข็มออกแล้ว จะนำเตาอังความร้อนให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย

คุณหมอทำการรักษาด้วยการครอบแก้วต่อเลย เริ่มจากแบบใช้น้ำมัน เราต้องนอนทำตัวนิ่ง คว่ำหน้า เพราะคุณหมอจะใช้การจุดไฟเพื่อไล่ออกซิเจน แล้วนำครอบแก้วมารูดและดูดผิวหนังขึ้นไป แล้วดึงออก (มีเสียง “ป๊อป” เหมือนเวลาเปิดขวดน้ำอัดลมเลยครับ) ผมชอบมากเพลินดี เหมือนผิวหนังถูกดึง ตรงข้ามกับการนวดที่เป็นการกด จบจากอันนี้ คุณหมอออมเช็ดผิวของผมให้แห้ง แล้วเปลี่ยนขนาดที่ครอบแก้วให้ใหญ่ขึ้น แล้วดูดบริเวณเอวเพื่อช่วยในการบำรุงไต ที่เห็นเป็นรอยแดงคือการที่เส้นเลือดฝอยแตก เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณนั้น

ปิดท้ายด้วยการแปะหมุดแม่เหล็กเพื่อช่วยการนอนหลับ คุณหมอแปะไว้ตำแหน่งบนของใบหูผม ชื่อตำแหน่ง Shenmen (เสินเมิน) และอีกตำแหน่งแปะด้านล่าง เป็นเรื่องของหัวใจ กดทั้งสองจุดนี้ครั้งละ 30-60 วินาที ทำวันละกี่ครั้งก็ได้ ช่วยให้สงบและหลับสบาย

หลังจากทำจบทั้งหมดแล้ว คุณหมอจะเช็คอาการว่าเวียนหัวหรือหน้ามืดหรือไม่ ผมปกติดีครับ ไปนั่งพักรอข้างนอกก่อน และได้คุยถึงการฝังเข็มเพื่อความงามด้วย คุณหมอออมบอกว่า ตอนที่เรียนการฝังเข็มที่ประเทศจีน คุณหมอได้เรียนเรื่องยาจีน นอกเหนือจากนี้ ยังสนใจศาสตร์ด้านความงามเป็นพิเศษด้วย เช่น การฝังเข็มให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ รักษาสิว การฝังเข็มเพื่อลดผมร่วง การฝังเข็มเพื่อลดความอ้วน ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ คนน้ำหนักเป็นร้อยกิโลใช้การฝังเข็มลดน้ำหนักได้ ใช้ร่วมกับการติดแม่เหล็กที่หูแล้วกดจุด ช่วยให้การให้อยากอาหารน้อยลง นอกจากนี้ยังมีที่อบพ่นสมุนไพรทั่วทั้งตัวด้วยนะครับ ผมขอเข้าไปดูเครื่อง ดูล้ำสมัยไฮเทคมาก ๆ ครับ นอกจากนี้ ลูกค้าหลายคนมาฝังเข็มเพื่อช่วยให้ลดความเครียด แล้วก็มีบุตรง่ายขึ้น สำเร็จมาหลายรายแล้วครับ

ก่อนกลับ คุณหมอบอกผมว่าไหล่จะตึง ๆ ประมาณ 2 วันและอาการจะเริ่มดีขึ้น เท่าที่พิมพ์บทความอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าดี ขยับได้สบายมากครับ ส่วนเรื่องการนอนหลับมารอลุ้นคืนนี้ ถ้าท่านใดสนใจอยากรักษาด้วยการแพทย์แผนจีน ลองไปปรึกษากับคุณหมอออมได้ที่ https://www.facebook.com/mandarin.clinic.bkk ครับ.

………………………………………..
คอลัมน์ : ก้อนเมฆเล่าเรื่อง
โดย “น้าเมฆ”
https://facebook.com/cloudbookfanpage