นี่คือการเจอกันของทีมที่ชนะมา 5 นัดรวด และทีมที่ชนะในลีกมา 10 นัดรวด

ครึ่งแรกอาร์เซนอลเล่นได้ดีกว่าเกินคาด มีไม่กี่ทีมที่จะสามารถต่อสู้กับบอลเล่นตามช่องได้ดีของแมนฯซิตี้ ได้เยี่ยมขนาดนี้

ภาพรวมอาจครองบอลน้อยกว่า แต่การเข้าทำวูบวาบ น่าจะนำมากกว่าหนึ่งประตูด้วยซ้ำ

จังหวะการทำประตูนั้นสวยมาก ลากาเซตต์ กลายเป็นตัวหลอก ซาก้า วิ่งตัดหน้าเข้ามายิงอย่างสวย

ซึ่งถ้าจะทำประตูแมนซิตี้มันก็ต้องมีอะไรพิเศษๆ แบบนี้แหละ

นอกจากประตูที่ทำได้ ปาร์เตย์ เด่นมาก ดักเก็บ รุกรับ ได้หมด เสียดายจริงๆ ที่ต้องเสียไปเตะถ้วยชิงแชมป์แอฟริกา

แต่สุดท้ายแล้ว เกมนี้กรรมการหัวขวดทำเละไปหมด

เอาจริงๆ ถ้าวัดด้วยมาตรฐานการตัดสินของกรรมการพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ผมมั่นใจว่า จังหวะที่มาร์ติน โอเดการ์ด โดนทำฟาวล์ช่วงต้นครึ่งแรกนั้น ยังไงก็เป็นจุดโทษ 100%

ก็เท้าของเอแดร์ซอนเตะโดนขาโอเดการ์ดก่อน แล้วมันจะไม่เป็นจุดโทษได้ยังไง

แล้วพอครึ่งหลังแมนฯซิตี ดันได้จุดโทษง่ายดายทั้งที่แบร์นาโดโดนดึงพุ่งล้มทั้งที่ตัวเองเสียบอลไปแล้ว

คือชาก้าก็เสียเหลี่ยมด้วย เพราะต่อให้ไม่ดึง แบร์นาโดก็ทำไรไม่ได้อยู่ดี

แล้วกาเบรียล มากัลเกญส มาโดนเหลืองที่สองเป็นใบแดงอีก

ใบเหลืองแรกไม่ทันเห็นด้วยซ้ำว่าฟาวล์ยังไง

…เฮงซวยจริงๆ

กรรมการพรีเมียร์ลีกนี่มันรักษามาตรฐานความมั่วมาทั้งฤดูกาลจริงๆ จะเป่าอะไรก็คงแล้วแต่อารมณ์มัน

ซาก้าแค่บ่นกรรมการยังโดนใบเหลือง แต่โรดรีหวดมาร์ติเนลลีจนตัวลอยกลับไม่โดนแม้แต่ตักเตือน

รวมๆ ผมไม่เห็นว่า แมนฯ ซิตี สมควรได้แต้มตอนไหน จ่าฝูงไม่ได้เล่นดีเท่าไร อาร์เซนอลต่างหากที่เล่นดีกว่า โอกาสจะแจ้งมากกว่า

แมนฯ ซิตี้ ไม่สมควรชนะ

ที่สมควรเสียจุดโทษก็ไม่เสีย

ที่ไม่น่าได้จุดโทษก็กลับได้

ที่อาร์เซนอลไม่ควรใบแดงก็ได้ใบแดง

ถ้าจะเข้าข้างทำกันขนาดนี้ก็ประเคนแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ไปเถอะ