หลังจากร้างสนามไปนานเกือบ 2 ปี ในที่สุด ฟิล โจนส์ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่สาวกผีแดงทั้งรักทั้งชังก็ได้หวนคืนสู่สังเวียนหญ้าอีกครั้งในศึกพรีเมียร์ลีก นัดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ วูล์ฟส์ คารัง 0-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

            หนหลังสุดที่ โจนส์ ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดที่ เรด เดวิลส์ บุกต้อน ทรานเมียร์ โรเวอร์ส 6-1 เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ปี 2020 ซึ่งตัวเขาสามารถทำประตูได้ด้วย

            จากนั้น ดาวเตะวัย 29 ปี ก็ต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตมากมาย โดยเฉพาะปัญหาบาดเจ็บที่รุมเร้าอย่างหนักจนทำให้ต้องร้างสนามไปถึง 707 วัน จนหลายคนมองว่า บางทีเขาอาจจะไม่ได้กลับมาสวมชุดอสูรแดงอีกแล้ว

            ทว่าจากอาการบาดเจ็บของ แฮร์รี แม็กไกวร์ กับ เอริก ไบยี กอปรกับการติดเชื้อโควิดของ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ทำให้ ราล์ฟ รังนิก ตัดสินใจให้โอกาส โจนส์ ได้ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงคู่กับ ราฟาแอล วาราน ในเกมเปิดบ้านรับมือหมาป่า

            โจนส์ เริ่มต้นได้ดีด้วยการโขกสกัดลูกเปิดเข้ากลางของ ฟรานซิสโก ตริสเกา ในช่วงต้นเกมจนเรียกเสียงปรบมือจากแฟนบอลผีแดงใน “โรงละครแห่งความฝัน” ได้อย่างกึกก้อง

            จากนั้น อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ ก็ค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับจังหวะของเกมจนดูไม่เหมือนกับนักเตะที่ร้างสนามไปนานเกือบ 2 ปีแม้แต่น้อย

            ช่วงท้ายครึ่งแรก โจนส์ ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รอดพ้นการเสียประตูได้อย่างหวุดหวิด เมื่อตามไปจิ้มบอลจากปลายสตั๊ดของ ตรินเกา ในกรอบ 6 หลาได้อย่างหวุดหวิด

            นอกจากนี้ยังดันขึ้นไปช่วยเกมรุกจนช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้ายในครึ่งหลัง ซึ่ง บรูโน แฟร์นันด์ส เปิดเข้าไปให้ คริสเตียโน โรนัลโด โขกเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ ทว่าน่าเสียดายที่ “ซีอาร์7” ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

            ขณะที่ในช่วงทดเจ็บก็เป็น โจนส์ ที่เรียกฟรีคิกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อีกครั้ง แถมหนนี้ยังเป็นฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษในระยะที่สามารถลุ้นประตูได้เสียด้วย

            กระนั้น โชเซ ซา ก็ทำเอาแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเซ็งไปตามกันเมื่อบินปัดลูกยิงของ แฟร์นันด์ส ออกไปได้หวุดหวิดทำให้ ปิศาจแดง ต้องตกเป็นฝ่ายปราชัยคาบ้านไปในที่สุด

            สำหรับ โจนส์ จุดด่างพร้อยเพียงหนึ่งเดียวในการคัมแบ๊กของเขาหนนี้ก็คือการโหม่งเคลียร์บอลไม่ดีจนตกไปเข้าทางของ ชูเอา มูตินโญ ที่ยิงสวนผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 82 และกลายเป็นประตูชัยของทีมเยือนในที่สุดนั่นเอง

นอกเหนือจากนั้นต้องบอกว่า นักเตะหมายเลข 4 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถพูดได้เลยว่า น่าจะเล่นได้ดีกว่า แม็กไกวร์ ที่ช่วงหลังขยันทำตัวเป็นบ่อน้ำมันเหลือเกินด้วยซ้ำ.

แท ยอน

ภาพ REUTERS