หลังจากประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายกับงานสร้างซีรีย์แนวไซไฟสงครามอวกาศ The Mandalorian (เดอะแมนดาลอเรียน) ที่ออกฉายในเดือน พ.ย. 2019 ซึ่งทิ้งท้ายว่า ตำนานของ “นักรบแมนดาลอ” ยังไม่จบเพราะผู้ชมกำลังจะได้ชม The Book of Boba Fett (เดอะบุ๊ก ออฟ โบบา เฟตต์) นักล่าค่าหัวที่เคยจัดการ “ฮานโซโล” วีรบุรุษในตำนาน “สตาร์ วอร์ส” ทำเอาคอหนังแฟนคลับแทบคลั่ง ซึ่งล่าสุด “ดิสนีย์+ ฮอตสตาร์” ได้จัดลงฉายตามกำหนดการ 29 ธ.ค.64 The Book of Boba Fett EP. 1 เอาใจคอหนังแอ๊คชั่นไซไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รู้ก่อนชม “The Book of Boba Fett”
ในอดีตกาลนานมาแล้ว “แจงโก้ เฟตต์” นักล่าค่าหัวชาวแมนดาลอ ได้ตกลงรับการว่าจ้างจากชาวดาวคามิโน ให้เป็นต้นแบบการผลิตกองทัพมนุษย์โคลน โดยแลกกับการปั๊มตัวโคลนที่เหมือนกับเขาในช่วงเยาว์วัย เพื่อนำมาเลี้ยงดูราวกับเป็นลูกชายคนโปรด เขาฝึกฝนลูกคนนี้ให้แข็งแกรงก่อนจะให้ชื่อว่า “โบบา เฟตต์” แต่เพราะ แจงโก้ ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดสงครามโคลนเขาจึงถูก อาจาย์เจได “วินดู” ผู้ถือไลท์เซเบอร์สีม่วงสังหารด้วยการบั่นคอ เรื่องนี้ทำให้เด็กหนุ่ม โบบา ยอมไม่ได้พยายามติดตามไปแก้แค้นแต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ เขาจึงมุ่งมั่นฝึกฝนตนเองเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นนักล่าค่าหัวแบบผู้เป็นพ่อ

เวลาผ่านไป โบบา กลายเป็นนักล่าค่าหัวฝีมือระดับต้น ๆ เขาได้รับความไว้วางใจให้รับงานจาก ลอร์ด “ดาร์ธ เวเดอร์” ตามล่าชายที่ชื่อ “ฮาน โซโล” แน่นอนว่า ฮาน ไม่มีทางสู้ได้เพียงลำพัง เขาโดนจับแช่แข็งคาร์บอไนต์กลับมาส่งผู้ว่าจ้างก่อน ดาร์ธ เวเดอร์ จะมอบร่างของ ฮาน ให้แก่ โบบา เพื่อเอาไปส่งให้ “แจ๊บบ้า เดอะ ฮัท” มาเฟียตัวพ่อแห่งดาวทาทูอีน แต่ยังไม่ทันไรกลุ่มเพื่อนของฮาน นำโดย ลุค สกายวอล์คเกอร์, เลอา ออร์กานา, ชิวแบคคา,ซีทรีพีโอ,อาร์ทูดีทู และแลนโด้ คาร์ริเซีย ได้บุกมาช่วยเหลือไว้ได้แถมยังสังหาร แจ๊บบ้า โดยใช้โซ่รัดคอจนตายคาบัลลังก์อีกด้วย โบบา พยายามสู้กับกลุ่มของ ฮาน อย่างดุเดือด แต่สุดท้ายเขาพลาดท่าโดนขังไว้รถก่อนส่งลงท้องสัตว์ประหลาดทะเลทราย หรือตัว “ซาลักก์”…. นักล่าค่าหัว โบบา เฟตต์ จะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้ใน “ดิสนีย์+ ฮอตสตาร์” เท่านั้น!!!

ความโดดเด่นของ The Book of Boba Fett
พล็อตเรื่องจะแบ่งออกเป็น 2 เส้นเรื่องในตัวละครเดียว โดยเส้นเรื่องแรก ผู้ชมจะทราบจากภาพยนตร์ตัวอย่างแล้วว่า โบบา เฟตต์ (รับบทโดย “เทมูร่า มอร์ริสัน”) ได้สังหารพ่อบ้านของ แจ๊บบ้า ก่อยจะอ้างสิทธิ์ยึดครองทุกอย่าง รวมไปถึงอำนาจการปกครองในดาวทาทูอิน เขาพร้อมที่จะแผ่อิทธิพลไปในทุกชนเผ่า เคลียร์ปัญหาได้ในทุกปัญหาภายใต้การคุ้มครองจากเขา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ลองคิดดูว่า ตัวเขากับ “เฟนเนก แชน” มือขวาของ โบบา (รับบทโดย “หมิงนา เวน”) กับทหารอีกไม่กี่คน จะสามารถจัดการทุกเรื่องในดาวได้อย่างไร อีกทั้งการปกครองดาวคงไม่ง่ายนักเพราะต้องมีกลุ่มคนไม่เห็นด้วยและเข้ามาเป็นคู่อริขัดขวางอย่างแน่นอน โดยเส้นเรื่องนี้จะเน้นการพูดคุยเจรจา แต่ก็ยังมีฉากต่อสู้แอ๊คชั่นให้เห็นเล็กน้อย ซึ่งใน EP ต่อ ๆ ไปคงได้เห็นบทบู๊แบบดุดันกว่านี้ โดยเฉพาะคู่ปรับใหม่ พี่น้องฝาแฝดญาติของ แจ๊บบ้า ที่มาพร้อมกับ นักรบคู่ใจเผาวุคกี้ร่างยักษ์ขนสีดำซึ่งจะมาปรากฏตัวให้เห็นใน EP ที่ 2

ในส่วนของเส้นเรื่องที่ 2 จะเป็นการเล่าย้อนไปในอดีตของ โบบา หลังจากที่เขารอดตายขณะอยู่ในท้องของตัวซาลักก์ เขาต้องไปผจญภัยในดินแดนแห่งทะเลทราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปร่วมกับกลุ่มชนเผา “ทัสเคน เรดเดอร์ส” เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และสร้างความเกรียงไกรให้ชนเผ่าพื้นเมืองนี้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งพล็อตเรื่องนี้ ค่อยข้างจะมีความซับซ้อน ทั้งฉากต่อสู้ทั้งกับสัตว์ประหลาดและกลุ่มทหาร แอ๊คชั่นก็มีความดุดันกว่าเส้นเรื่องแรก บททดสอบเพื่อก้าวเข้าสู้นักรบแห่งทะเลทราย เป็นสิ่งที่น่าติดตามชมเป็นอย่างมาก

จุดอ่อนของ The Book of Boba Fett
การเล่าเรื่องย้อนไปมาเหมือนแฟรชแบล็ก เพียงชั่วครั้งคราวก็ยังพอเข้าใจได้ว่า อยากจะท้าวความเป็นมาในเรื่องบางอย่าง แต่การเล่า 2 เส้นเรื่องโดยใช้ตัวละครเดียวกัน มันก็แปลก ๆ และบางทีก็ดูสับสน ว่าช่วงไหนอดีต ช่วงไหนปัจจุบัน ซึ่งก็ต้องไปสังเกตจากการแต่งตัวของ โบบา ระหว่างใส่เกราะเต็มยศแล้ว กับ ยังไม่มีเกาะใส่นั่นเอง และแม้จะมีข้อสังเกตง่าย ๆ จากพล็อตเรื่อง แต่จริง ๆ แล้วก็น่าจะเล่าเรื่องตั้งแต่รอดชีวิตมาได้ไปจนถึงเวลาของปัจจุบันได้ง่าย ๆ ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อไปว่า มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผู้เขียนบทอย่าง จอน ฟาฟโร และ โรเบิร์ต รอดริเกซ ผู้กำกับหนัง ถึงได้เลือกการเล่าเรื่องที่สลับไปมาเช่นนี้

4/5 สำหรับหนังที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ภาพ CG งาม ๆ คอหนังแนว “สตาร์ วอร์ส” ไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง

———————————————————————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก “ดิสนีย์+ ฮอตสตาร์” และ เว็บไซต์ยูทูบ