บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 6 ม.ค.65 ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน จากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีแนวโน้วปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วว่าที่คาดการณ์ และยังรวมถึงการปรับลดการถือครองสินทรัพย์ทั้งหมดเพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อจึงทำให้สภาพคล่องในตลาดลดลง บวกกันโควิดโอมิครอนในไทยกระจายตัวไปแล้ว 55 จังหวัด ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,653.03 จุด ลดลง 23.76 จุด หรือ 1.42% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 106,477.92 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 619.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.44 จุด หรือ 0.23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,311.89 ล้านบาท

นายพจน์  หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. วรรณ กล่าวว่า การลงทุนของตลาดหุ้นไทยในปีนี้ นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์โควิด ตัวเลขแนวโน้มเงินเฟ้อในต่างประเทศ เนื่องจากจะส่งผลต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก และส่งผลต่อกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งหากธนาคารกลางประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าตลาดคาดการณ์มองว่าจะกระทบต่อบรรยากาศตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกและหากทยอยปรับขึ้น 3 ครั้งในปีนี้ทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีจะอยู่ลักษณะแกว่งตัวออกข้าง

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 142.50 บาท ลดลง -3.50 บาท

2.อีเอ ปิดที่ 99.00 บาท ลดลง -0.25 บาท

3.ปตท. ปิดที่ 38.00 บาท ลดลง -1.00 บาท

4.เคซีอี ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง -4.50 บาท 5.ซีพีเอฟ ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท