และแล้วก็กลับมาพบกันอีกเช่นเคยทุกวันศุกร์เวลาดีเช่นนี้กับ “พรุ่งนี้กินไรดี” ที่ในรอบนี้น้องเผือกมีชาเลนจ์ใหม่จะมาให้ทางทีมได้ลองพาทุกท่านไปลองกัน โดยโจทย์วันนี้ก็คือ… “1,000 บาทตะลุยบางรัก” ย่านเก่าแก่ ที่ไม่ได้มีแค่สิ่งให้นึกถึงอย่างการจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยอาหารอร่อยๆ ซึ่งเราจะได้ทานอะไรกันบ้าง เรามาติดตามกันค่ะ!

เริ่มต้นรับอากาศร้อนๆให้เย็นชื่นใจกันที่ “โหมงหวอ น้ำขม” ฝั่งตรงข้ามโรบินสันบางรัก ที่เปิดมาตั้งแต่สมัยอันธพาลครองเมือง พ.ศ. 2479 สไตล์ดั้งเดิมของร้านนี้คือสั่งที่ตู้หน้าร้าน บนตู้ก็จะมีสรรพคุณของน้ำต่างๆ เช่น น้ำขม แก้ร้อนใน แผลในปาก น้ำใบบัวบก แก้ช้ำใน บำรุงหัวใจและความจำ น้ำเก๊กฮวย บำรุงสายตา ตับ ช่วยขับลม เป็นต้น แล้วก็มีน้ำขมแบบขมน้อย ที่ช่วยลดการระคายคอ มีให้เลือกทั้งแบบเป็นแก้วดื่มได้เลย หรือจะซื้อเป็นขวดกลับบ้านก็ได้เช่นเดียวกัน

ต่อมาที่ร้านที่สอง.. เดินมาแค่ไม่กี่ก้าวก็จะเจอกับ “ทอดมันกวางตุ้ง” ทอดมันสูตรกวางตุ้งเจ้าเเรกในประเทศไทยที่บอกเลยว่ามีประวัติความยาวนานถึง 15 ปี จุดเด่นของร้านคือทอดมันของที่นี่ใช้เนื้อปลาอินทรีล้วนๆ ชิ้นใหญ่จุใจ มีสองรสให้เลือกทานคือ สูตรสีขาวเป็นสูตรดั้งเดิม เเละสูตรสีเเดง เป็นสูตรผสมพริกแกง เเถมมีซาลาเปาทอดที่เเป้งทอดกรอบนอกนุ่มใน มี ไส้หมูแดง หมูสับ เเละไส้ครีมให้เลือกค่ะ

ขยับมามื้อหลักกับ “ประจักษ์เป็ดย่าง” ที่ร้านเปิดมายาวนานมากกว่า 111 ปี และปัจจุบันขายมาเป็นรุ่นที่ 4 แล้วค่ะ ร้านนี้เมนูเด็ดๆ คือ เป็ดย่าง หมูกรอบ และหมูแดง ซึ่งแน่นอนเราก็ไม่พลาดที่จะสั่ง “ข้าวหน้าเป็ด” และ “เกี๊ยวกุ้งเฉโป” มาลิ้มลอง ต้องบอกเลยว่าอร่อยทุกอย่างจริงๆ โดยเฉพาะเป็นที่หนังกรอบ เนื้อนุ่มหอมละลายในปากมากๆ บอกเลยว่าถ้ามาบางรักแล้วไม่ได้มาทาน ถือว่าพลาดมาก!

พักขาคลายร้อนกันที่คาเฟ่บรรยากาศสบายๆ ที่ “Homu” หรือที่อ่านออกเสียงว่า “โฮมุ” ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “บ้าน” เป็นร้านขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ภายในห้องแถวตึกเก่าอายุนับร้อยปี กลางซอยเจริญกรุง 44 เสิร์ฟเมนูขนมโบราณตำรับญี่ปุ่น เมนูไฮไลต์ที่ต้องลองก็คือ “โมจิหยดน้ำซากุระน้ำแร่ฟูจิ” โมจิหยดน้ำสีชมพูใสที่ใช้น้ำแร่นำเข้าจากเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เท่านั้น ตัวขนมมีกลิ่นหอมของดอกซากุระ ดองเกลือที่ให้รสเค็มอ่อน ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสที่มีส่วนผสมของเหล้าซากุระ ตักทานพร้อมกันจะให้รสกลมกล่อมหอมหวาน สดชื่นมากๆ นอกจากนี้ยังมี “โมจิหยดน้ำ Original” ทานคู่กับผงคินนาโกะและคุโรมัตสึ ซึ่งเมนูขนมส่วนใหญ่ของทางร้านจะถูกนำมาทานคู่กันกับชาเบลนด์สูตรพิเศษ ที่มีให้เลือกดื่มทั้งแบบชงร้อนที่เสิร์ฟมาในกา และแบบขวดแช่เย็น

ปิดท้ายด้วยร้านสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “ทิพ หอยทอดภูเขาไฟ” ซอยเจริญกรุง 50 ข้างๆห้างโรบินสัน หลายคนอาจจะสงสัยว่าหอยทอดจะไปทานที่ไหนก็ได้ แต่หอยทอดที่นี่ขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะนอกจากจะตัวโตแล้ว ทางร้านก็ยังแตกเป็นเมนูหลากหลายที่น่าสนใจมาก อาทิ “หอยทับหอย” คือการนำหอยแมลงภู่ทอดราดหอยนางรม และอีกเมนูที่น่าสนใจคือ “ไข่เจียวสองหอย” ซึ่งก็คือ หอยนางรมและหอยแมลงภู่ ซึ่งขอบอกเลยว่าอร่อยมาก!

มาถึงตรงนี้แล้วขอบอกว่าเลยว่า เป็นการตะลุยกินในงบ 1,000 บาทที่อิ่มจนท้องจะแตกของจริงเลยล่ะค่ะ แถมค่าเสียหายทั้งหมด ขอสรุปไว้ให้เห็นชัดๆเลยว่า 1,000 บาทนั้นทานได้เยอะมากๆ
สรุปค่าใช้จ่าย
-น้ำขม 2 แก้ว ราคา 20 บาท
-ทอดมัน 4 ชิ้น, ซาลาเปา 3 ลูก ราคาทั้งหมด 140 บาท
-ข้าวหน้าเป็ด, เกี๊ยวกุ้งเฉโป รวม 169 บาท
-ชาและขนม 2 อย่าง ราคา 344 บาท
-หอยทับหอย, ไข่เจียว 2 อย่าง รวม 204 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 877 บาท

ส่วนในสัปดาห์หน้า เราจะพาทุกท่านไปเฟ้นหาความอร่อยที่ไหนกันนั้น อย่าลืมติดตามได้ใน “พรุ่งนี้กินไรดี”… แล้วกลับมาพบกันนะคะ…

…………………………….
คอลัมน์ : “พรุ่งนี้กินไรดี”
โดย “น้องเผือกรสแซ่บ”