เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อาร์เซนอล ทำได้แค่เสมอ เบิร์นลีย์ 0-0 ด้วยสถิติครองบอล 76% ได้ยิง 20 ครั้ง ตรงกรอบ 5 ครั้ง เตะมุม 12 ครั้ง

ดูแค่สถิติก็อาจน่าพึงพอใจว่าอาร์เซนอล ครองบอลได้เยอะ สร้างโอกาสได้เยอะ

แต่เอาเข้าจริงผมว่านี่ไม่ใช่เกมที่น่าพอใจเลย

ตัวเลขเหมือนดี รูปเกมบุกได้มาก แต่ถ้ายังไม่แก้ไขอะไรหลายๆ อย่าง ฤดูกาลนี้อย่าว่าแต่ถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก แม้แต่ถ้วยยูโรปา หรือ ยูฟ่า คอนฟีเรนซ์ ก็อาจจะไม่ได้ไปเตะด้วยซ้ำ

การจัดตัวเกมนี้มิเกล อาร์เตตา ไม่มีทางเลือกในแดนมิดฟิลด์เมื่อเหลือแค่แซมบี โลก็องกา คนเดียวให้ใช้งาน ในขณะที่ กรานิต ชากา และ โธมัส ปาร์เตย์ พร้อมใจกันติดโทษแบน ซึ่งก็เป็นผลการจากการกระทำของตัวเองทั้งนั้น

วินัยในสนามจึงต้องแก้ด่วน เพราะการโดนใบแดงไม่ใช่แค่หายนะในเกมนั้นๆ แต่จะส่งผลกระทบถึงเกมต่อๆ ไปด้วย

อีกทั้งถ้าจะหากองกลางมาเสริมได้ช้าขนาดนี้ สโมสรก็ไม่ควรรีบปล่อย เมทแลนด์ ไนลส์ ย้ายออกไปตั้งแต่ต้นเดือน ทั้งที่รู้อยู่ว่า โม เอลเนนี และ ปาร์เตย์ ต้องบินไปแอฟริกา

ดังนั้นผลเสมอที่ทำให้ตลอดทั้งเดือนมกราคม อาร์เซนอล เตะ 5 นัด ไม่ชนะใครเลย และตกรอบฟุตบอลถ้วย 2 รายการ ส่วนหนึ่งไม่ใช่แค่โควิดเท่านั้น แต่ยังเพราะการบริหารทีมไม่ดีพอ

นอกจากกลางไม่ดีแล้ว เกมรุกก็กำลังฝืดขั้นสุด ในบรรดา 5 เกมนี้ อาร์เซอล ยิงได้แค่ 1 ประตูคือแพ้ แมนฯ ซิตี 1-2 หลังจากนั้นยิงไม่ได้เลย 4 เกมติด

เมื่อคืนนี้อาร์เซนอลก็มีโอกาสพอสมควร แต่ปัญหาเดิมๆ คือแนวรุก

ในวันที่น้องๆ บูกาโย ซากา และ เอมิล สมิธ โรว์ ซึ่งเป็น 2 ดาวซัลโวสูงสุด 9 และ 7 ประตูทุกรายการยิงไม่ได้

ในวันที่ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ยังโดนตัดออกจากทีม

ขณะที่ ลากาเซตต์ ก็ยังรักษามาตราฐานความฝืดต่อเนื่อง โอกาสเหน่งๆ ยังยิงออกข้าง

ซึ่งถ้าก่อนสิ้นเดือนนี้ อาร์เซนอล ยังหากองหน้าใหม่ไม่ได้ ผมเชื่อเลยว่าจบเห่ อันดับจะลื่นไถลไป 7 8 9 หรือ 10 ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้

เพราะไม่ว่าครองบอลมากแค่ไหน หรือสร้างโอกาสเป็นร้อยครั้ง แต่ถ้าแนวรุกพึ่งพาไม่ได้ มันก็จบแล้ว

แล้วบางทีการจะเป็นผู้ชนะ มันก็ต้องมีอาวุธหลายชนิด ทั้งที่โอกาสเตะมุมเยอะมากแต่กลับฉวยโอกาสไม่ได้ โอกาสยิงฟรีคิกใกล้กรอบเขตโทษก็มีแต่ทำไม่ได้อีก

ขนาดเล่นในบ้านเจอกับเบิร์นลีย์ยังชนะไม่ได้ แล้วหวังจะชนะใครได้อีกล่ะครับ

ไม่รีบเสริมทัพให้เร็วที่สุด ไม่รีบแก้ปัญหานักเตะโดนใบแดงบ่อยให้เร็วที่สุด ไม่รีบแก้เรื่องการจบสกอร์ให้เร็วกว่านี้

เชื่อว่าอะไรๆ จะแย่กว่านี้ได้อีกเยอะเลย