ผมมีเพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยชื่อ “วี” หรือ วีระพล บดีรัฐ วันหนึ่งวีโทรมาหาผมขอคำปรึกษาเรื่องโรงเรียนลูก ก่อนวางสายผมถามไถ่ว่าตอนนี้วีทำงานอยู่ที่ไหน วีบอกว่าเขาทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยและให้ความรู้สั้น ๆ ทางด้านการเงินและการทำการค้าเบื้องต้นในช่อง Youtube: NANAKE555 รายการท่าไม้ตาย (ผมคุยเมื่อต้นปี แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว) ผมเป็นแฟนช่อง NANAKE555 แต่ทำไม่เคยเห็นเลย เคยดูรายการ “คุยต้องรวย” (อยากรู้จริง ใครตั้งชื่อนี้) วีบอกว่ารายการท่าไม้ตาย เป็นรายการสด LIVE ออกอากาศทุกวันจันทร์เวลา 1 ทุ่ม จะมีเศรษฐีใจดี ให้เงินคนที่ลำบากไม่มีรายได้ แต่มีไอเดียดี โทรเข้ามาเล่าไอเดียและขอเงินไปตั้งต้นธุรกิจ โดยให้คนในโซเชียลมีเดียช่วยกันโหวตว่าจะให้หรือไม่ให้

ผมสนใจในคอนเซ็ปท์รายการ และช่วงของ “พี่วี” (ตามที่น้าเน็กเรียก) จะเริ่มที่ EP.8 ถึง EP.20 จะเข้ามาให้ความรู้ประมาณ 10-15 นาทีในฐานะ Wealth Guru แม้เวลาจะสั้น แต่ผมดูแล้วมีคุณค่ามากครับ เพราะพี่วีใช้ภาษาง่าย ๆ ไม่มีศัพท์แสงทางวิชาการ ไม่มีคำภาษาอังกฤษ มีการยกตัวอย่างให้เห็นภาพและตอบทุกปัญหาได้เคลียร์แบบไม่มีข้อสงสัยต่อ ที่สนุกคือ จะมีน้าเน็กและพี่ปิงปอง รวมทั้งผู้ชมทางโซเชียลมีเดียค่อยป้อนคำถามและมีการแซวเรื่องกางเกงบ้าง เรื่องมุมของบ้านพี่วีบ้าง บางครั้งก็มีทะลึ่งตึงตัง แต่ผมถือว่าเป็นสีสันเรียกเสียงฮา ทำให้การเรียนเรื่องยาก ๆ ไม่น่าเบื่อ

ผมคลิกดูไป 2 ตอนชอบมาก ติดใจไล่ดูต่อทุกตอน จนต้องขอติดต่อกับ “พี่วี” มาให้ช่วยสอนความรู้การทำการค้าขายง่าย ๆ แบบนี้ให้กับกลุ่มผู้เปราะบางที่ผมกำลังทำโครงการอยู่ พี่วีตอบตกลงทันที ผมประทับใจมาก เพราะงานในหน้าที่ของเขาคือ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า ธนาคารกสิกรไทยที่ทำข้อสัญญากับลูกค้าระดับ 8-9 หลัก แต่มาช่วยคนที่ลำบาก ต้องการมีร้านขายอาหารของตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต

ด้วยความที่พี่วีคุยเป็นกันเอง ทำให้ผู้อบรมในโครงการของผมกล้าเปิดใจ เล่าความฝันว่าพวกเขาอยากขายอะไร หลังจากนั้นพี่วีให้ทุกคนเริ่มรู้จักการวางแผน ทำเล็ก ๆ แต่เป้าหมายต้องชัด จะขายอะไร ที่ไหน ลูกค้าเป็นใครต้องรู้ก่อนเลย อย่าเพิ่งเปิดศึกหลายทาง (ในที่นี้หมายถึง ขายหน้าร้านก็ทำอย่างเดียว อย่างเพิ่งคิดล้ำไปออนไลน์) ทำแต่พอดีตัว ให้คิดในแง่ร้ายไว้บ่อย ๆ ว่าถ้าวันพรุ่งนี้ขายไม่ได้จะทำอย่างไร จะได้ไม่ประมาท

สิ่งหนึ่งที่พี่วีเน้นย้ำคือ ต้องคิดต้นทุนให้ครบเพราะมือใหม่มักจะคิดแต่เรื่องวัตถุดิบแค่อย่างเดียว เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวก็จะคิดแต่ว่าซื้อเส้น ซื้อลูกชิ้น ซื้อเนื้อ หมู และผัก วนไปอยู่แค่นั้น และคิดว่านั่นคือค่าต้นทุน แต่จริง ๆ แล้วมีต้นทุนที่มักจะลืมคิดด้วย เช่น ค่าขนส่งและค่าเดินทางที่ไปซื้อวัตถุดิบ ค่าวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างต้องคิดเผื่อไว้ด้วยว่าวันหนึ่งมันเสียได้พังได้ และที่มักจะลืมกันประจำคือ การลืมจ่ายค่าแรงให้ตัวเอง จะให้เป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนก็ต้องคิดและใส่ลงไปในต้นทุนด้วย

พี่วีให้ผู้อบรมทุกคนเริ่มต้นแยกเก๊ะ (จริง ๆ คือบัญชี) ที่ทำการค้ากับบัญชีส่วนตัวตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำธุรกิจ อย่าเอามาใช้ปนกัน ให้ทุกคนจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกวันให้ละเอียด สร้างร่องรอยการทำธุรกิจเพื่อกลับมาดูย้อนหลังและวิเคราะห์ได้ว่า วันไหนขายดี ขายดีเพราะอะไร ค่าใช้จ่ายหมดไปกับอะไร ช่วงวันไหนควรสั่งของเพิ่ม ฯลฯ พี่วีเน้นย้ำเรื่องการเก็บออมไว้เสมอ เมื่อมีกำไร แต่ละคนไม่มีสูตรตายตัวในการเก็บ แต่ถ้านึกไม่ออกก็ให้คิดว่า เมื่อได้กำไรมา ให้ออมไว้ 10% เสมอ

เรื่องสุดท้ายของบทเรียนครั้งที่ 1 ที่พี่วีฝากไว้คือ การกระจายความเสี่ยง เรื่องนี้ให้มองไว้ล่วงหน้าหลังจากการทำการค้าสัก 6 เดือนไปแล้ว อย่าหวังพึ่งลูกค้าแค่กลุ่มเดียว ให้เริ่มมองหาลูกค้ากลุ่มใหม่ เช่น อย่ามั่นใจว่าเปิดหน้าโรงงาน มีคนงานมาซื้อกินทุกวัน ถ้าวันหนึ่งโรงงานปิดจะทำอย่างไร มองหาคู่ค้าอื่น ๆ เผื่อไว้ด้วย ถั่วงอกไม่ได้มีแค่เจ้าเดียว ถ้าเกิดน้ำท่วมร้านประจำมาส่งถั่วงอกไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น พยายามหาเจ้าอื่นสำรองเตรียมไว้ เรื่องของพนักงานก็เช่นกัน ถ้าเจ้าของทำอาหารเป็น ค่อนข้างปลอดภัย แต่ถ้าหวังพึ่งพ่อครัวอยู่คนเดีย ถ้าเกิดพ่อครัวเจ็บป่วย ตาย ลาออก ขอขึ้นเงินเดือนจะทำอย่างไร ให้เริ่มฝึกมือรองเตรียมไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน และสุดท้าย สินค้าของเราเอง อย่าหวังแต่พึ่งแค่เมนูพระเอกตัวเดียว วันหนึ่งสินค้านั้นเกิดตกเทรนด์ หมดความนิยม หรือเกิดโรคระบาดในเนื้อสัตว์ที่ใช้จะทำอย่างไร ให้คิดเมนูที่หลากหลายไว้เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า

อันนี้เป็นเนื้อหาในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงที่พี่วีถ่ายทอดให้แก่ผู้อบรมครับ พอสอนจบทุกคนอยากเรียนต่อ อยากให้ถึงครั้งต่อไปไว ๆ ….เช่นเดียวกัน ถ้าทุกท่านที่สนใจเนื้อหาการค้าขายเบื้องต้นแบบนี้ ลองไปดูในรายการท่าไม้ตายกับพี่วี ได้ครับ เริ่มตั้งแต่ EP นี้เลยครับ https://www.youtube.com/watch?v=9RMzqG2CMXc

………………………………………..
คอลัมน์ : ก้อนเมฆเล่าเรื่อง
โดย “น้าเมฆ”
https://facebook.com/cloudbookfanpage