สเปอร์ส ไม่ได้เล่นแย่ในเกมกับ วูล์ฟส์ แต่แพ้เพราะความผิดพลาดส่วนบุคคลตามเคย

เกมนี้สลับมาเป็นกัปตันทีม ฮูโก โยริส ที่มีส่วนพลาดกับทั้ง 2 ประตูที่เสีนตอนต้นเกม แม้ว่าหลังจากนั้น จะมีช็อตเซฟสวยๆช่วยทีมหลายครั้งก็ตาม

แต่นอกเหนือจากนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครพลาดเลย แต่ละคนยังวนเวียนผิดพลาดง่ายๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเกือบโดนเพิ่มอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะในครึ่งแรก

ปัญหาหลักๆก็ยังเป็นกองหลัง

ไม่ต้องไปคาดหวังเรื่องการออกบอลได้เปรียบ เอาแค่ส่งตรงเพื่อนได้ก็บุญแล้ว สำหรับกองหลัง สเปอร์ส นาทีนี้

คนเดียวที่พอจะฝากผีฝากไข้ก็ได้ก็คือ คริสเตียน โรเมโร ที่ยิ่งเล่นยิ่งดี เข้าสกัดแม่น แน่นอน ไว้ใจได้

ส่วน เบน เดวีส์ ในยุค อันโตนิโอ คอนเต เด่นขึ้นมาในเรื่องใจสู้ กล้าลุยดี แต่ความสามารถยังมีขีดจำกัด

ขณะที่ ดาวิซอน ซานเชซ ไม่ว่ายุคใคร ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ยังเป็นคนที่น่าอ่อนอกอ่อนใจที่สุดสำหรับแฟนไก่เดือยทองอยู่ตลอด

ฤดูกาลนี้ จึงภาวนาอย่างเดียวให้ เอริค ดายเออร์ รีบหายเจ็บกลับมา จะได้มาคุมแผงรับให้นิ่งๆหน่อย

และจะได้ใช้ประโยชน์จาก โรเมโร ในฐานะสวีปเปอร์ คอยชนก่อนถึงตัวสุดท้ายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ในแดนกลาง เอาเข้าจริง แฮร์รี วิงค์ส ที่โดนแฟนบอลด่าเยอะ ก็ไม่ได้มีเกมที่แย่นัก ยังขยันวิ่งช่วยทีม และพยายามหาทางแทงบอลสวยๆตามถนัด

ที่ติดขัดคือเขายังทำไม่ได้อย่างที่แฟนบอลคาดหวัง และไม่เด่นทั้งเกมรุก และเกมรับ ทำให้ดูเหมือนเป็นนักเตะที่ไม่มีอะไร ทั้งที่สไตล์คือเพลย์เมคเกอร์ตัวโฮลด์บอลที่กุนซือหลายคนชอบ

ที่ดีเลยคือ โรดริโก เบนตานกูร์

หลังเป็นสำรองมา 2 เกม นัดนี้มิดฟิลด์อุรุกวัยได้เป็นตัวจริงครั้งแรก และถือว่าปรับตัวเร็ว ช่วยทีมเยอะ คุมแดนกลางใช้ได้เลย

ดูแล้วเป็นตัวหลักได้ไม่ยาก

ด้านเกมรุก ทุกคนทำเต็มที่แล้ว และผลงานส่วนตัวแต่ละคนไม่เลวเลย

แฮร์รี เคน กับ ซน ฮึง มิน ยังเป็นความหวังสูงสุด ส่วน ลูคัส มูรา วูบวาบช่วงแรก แต่ครึ่งหลังหาย

ขณะที่ เดยัน คูลูเซฟสกี แกนรุกคนใหม่ ก็ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ มีความพยายามดี แม้จะยังช้าไปเสมอสำหรับเกมในอังกฤษก็ตาม

ปัญหาคือดันมาเจอ วูล์ฟส์ ในวันที่กองหลังเหนียว ผู้รักษาประตูหนึบ แถมดวงก็ไม่มี ทำให้ยิงยังไงก็ไม่เข้า

โดยรวมแล้ว สเปอร์ส จึงไม่ได้แย่ขนาดนั้น แม้จะเป็นการแพ้ในลีกเกมที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งทำให้โอกาสในการลุ้นติดท็อป 4 เลือนรางลงไปอีกก็ตาม

แต่ก็ชัดเจนว่า หลายอย่างในทีมก็ยังต้องปรับอีกเยอะ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องต้องใช้เวลาทั้งนั้น

ไล่ตั้งแต่เกมรับ ที่จะดีขึ้นชั่วข้ามคืนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะแย่มาชั่วนาตาปี

เกมรุกที่นักเตะยังต้องใช้ความเข้าใจในการปรับจูนเข้าหากันอีกพอสมควร

และโดยเฉพาะสภาพจิตใจ ที่ทุกคนจะต้องลงเล่นด้วยความมั่นใจมากกว่านี้อีกเยอ

ถ้าไม่มีหัวใจผู้ชนะ ก็จะเงอะๆงะๆ กล้าๆกลัวๆ จนเป็นผลให้เกิดความผิดพลาดส่วนบุคคลอย่างที่เห็น

เรื่องสู้ไหม ตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหา เพราะทุกคนพร้อมสู้เต็มที่อยู่แล้ว แต่ต้องเติมจิตใจของผู้ชนะเข้าไปอีก

ถ้าทำได้ แต่ละคนจะลงเล่นด้วยความมั่นใจ โดนนำก็ไม่กลัว เพราะรู้ว่ากลับมาได้แน่ และจะมีโอกาสเป็นผู้ชนะในทุกเกม

แต่นั่นต้องใช้เวลา และอาจไม่ได้เห็นในฤดูกาลนี้ ?

กัปตันเจมี