เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ

ปัจจุบันผมอายุ 59 ปี มีปัญหาอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องการแข็งตัวช้าของอวัยวะสำคัญ บางครั้งก็แข็งตัวได้ไม่เต็มที่ เริ่มแรกที่เป็นเริ่มมาจากมีภาวะความดันโลหิตสูงเป็นมาได้เกือบจะ 4 ปีแล้ว จากนั้นก็เริ่มมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเพิ่มขึ้น ไปพบแพทย์ตรวจร่างกายแล้ว ตอนนี้ต้องกินยาควบคุมทั้งเรื่องความดันเลือด และน้ำตาลในเลือด สุดท้ายการแข็งตัวก็ไม่ได้เต็มที่ เมื่อไม่สามารถมีความสุขกับภรรยาจึงเริ่มขาดความมั่นใจไม่อยากจะนอนด้วย จนทำให้ภรรยาเกิดความระแวงไปต่าง ๆ นานา ตอนนี้เลยตัดสินใจอยากจะเข้ามารับการรักษากับคุณหมอโอ

ด้วยความเคารพ

ทวิช 59

ตอบ ทวิช 59

ธรรมชาติองคชาตของผู้ชายไม่จำเป็นต้องแข็งตัวได้ดี หรือแข็งตัวเต็มที่เหมือนกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ได้นั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเครียดจากการงาน ความอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม จึงส่งผลให้องคชาตไม่แข็งตัวหรือแข็งตัวได้น้อยจนดูเหมือนเป็นปัญหา ถ้าเป็นเพราะปัจจัยเหล่านี้ก็จะเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเพียงชั่วคราว แต่ในผู้ที่เป็นอีดีอาการนี้จะเกิดต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ซึ่งโรคที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดอีดีคือเบาหวาน เนื่องจากเป็นโรคที่มีผลกระทบทั้งต่อระบบหลอดเลือดและระบบประสาทเป็นโรคที่ทำให้ชายหญิงระแวงกัน หย่าร้างกัน ชายเบาหวานที่เป็นอีดีนั้นมักจะชอบซื้อยาเฉพาะกิจมากินเอง ปัจจุบันหาซื้อได้ง่ายขึ้น แต่พอกินแล้วในบางรายอาจต้องผิดหวังเพราะอาการอีดีไม่ได้ดีขึ้น บางรายซื้อยากินเองจนเกิดอาการดื้อยาคือกินแล้วองคชาตไม่แข็งตัวนั่นเอง

ความเป็นจริงแล้วการใช้ยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ ในผู้มีอาการอีดีจากเบาหวานนั้นมักจะได้ผลค่อนข้างน้อย ประสิทธิผลต่ำ การกินยากลุ่มพีดีอี 5 ไอเพียงขนานเดียวจึงไม่เพียงพอต่อผู้เป็นเบาหวานที่มีอาการอีดี ได้มีการศึกษาผู้เป็นเบาหวานที่มีอาการอีดีระดับปานกลางถึงรุนแรงมาก โดยการให้ยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ ร่วมกับกรดโฟลิก แม้ว่ากลุ่มเบาหวานที่มีอาการอีดีจะมีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินปัสสาวะ การสูบบุหรี่ เป็นต้น ผลที่ได้พบว่าอาการอีดีที่ได้รับการรักษาด้วยยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ ร่วมกับกรดโฟลิกดีขึ้น

ปัจจุบันได้ใช้คลื่นความถี่ต่ำกระตุ้นเส้น เลือดที่องคชาต 6-12 ครั้ง ให้เพิ่มและเติบโตระดับหนึ่งจะได้ผล 60-70% ดีขึ้น ร่วมกับการขยายกล้ามเนื้อเพศและเส้นเลือดให้ขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้การแข็งตัวขององคชาตดีขึ้น ผู้ป่วยมีความสมหวังและความสุขจากการร่วมเพศ จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการรักษาผู้ป่วยอีดีจากเบาหวานเพื่อให้ได้ผลดีกว่าการใช้ยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ เพียงขนานเดียว จึงไม่แปลกที่ชายอีดีจากเบาหวานซื้อยากินเองแล้วไม่ได้ผล การรักษาจากแพทย์นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังช่วยฟื้นฟูอาการอีดีให้กลับมาดีได้เร็วขึ้น หากจำเป็นการใช้ยากระตุ้นกล้ามเนื้อเพศโดยตรงจะได้ผลเร็วที่สุด.