“ทีมการเมืองเดลินิวส์” จึงมาสนทนากับ โหรชื่อดังฉายานอสตราดามุสเมืองไทย  “โสรัจจะ นวลอยู่”  เพื่อจับชีพจรการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

โดย นอสตราดามุสเมืองไทย เปิดฉากกล่าวว่า จากการโคจรดวงดาวตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนตลอดทั้งปี เป็นการโคจรที่ไม่เหมือนก่อน เพราะดวงดาวสำคัญเคลื่อนไหวค่อนข้างแปลกปะหลาด และอาจจะถือว่าปีนี้รุนแรงมาก อาจจะในรอบย้อนไปหลายสิบปี โดย พระราหู(๘) สถิตอยู่ในราศีพฤษภ ซึ่งจะย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ในวันที่ 30 มี.ค.2565 ซึ่งจะเข้าทับลัคนาบ้านเมือง ในขณะที่ ดาวมฤตยู(๐) ยังสถิตอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าไปทับ ดาวมฤตยู(๐) ด้วย ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.2565 จนถึงวันที่ 7 ก.ค.2565 ทั้งนี้ในช่วงระหว่าง ดาวมฤตยู(๐) กับ พระราหู(๘) พบกันนั้น ก็จะแสดงผลหลายเรื่อง อย่างเช่น การเมืองบางครั้งอยู่ดี ๆ ก็เกิดการขัดแย้ง ทั้งที่อาจจะเป็นกลุ่มที่เคยสนับสนุนกันมา ก็จะเริ่มมีการแตกแยก ซึ่งจะเริ่มเห็นได้บ้างพอสมควร และจะมากขึ้นจากนี้ไป

ส่วน ดาวพระอังคาร(๓) หรือ “ดาวสีเลือด” จะย้ายจากราศีธนู เข้าทับ ดาวพระเสาร์(๗) ที่สถิตในราศีมังกร ในวันที่ 26 ก.พ. 2565 นี้ และทำมุมตั้งฉากกับ ดาวมฤตยู(๐) ที่สถิตอยู่ในราศีเมษซึ่งเป็นลัคนาบ้านเมือง หลังจากนั้น ดาวพระอังคาร(๓) จะย้ายออกจากราศีมังกร ในวันที่ 7 เม.ย.2565 นี้ ซึ่งจะต้องจับตาดูให้ดีในระหว่างนี้ อาจจะทำให้บ้านเมืองโกลาหล อาจจะเกิดการยุบสภา ก่อนที่จะเกิดขึ้นโกลาหลครั้งใหญ่ในช่วงกลางปี ในวันที่ 7 ก.ค. 2565 จากการที่ ดาวมฤตยู(๐) ย้ายออกจากลัคนาดวงเมืองของประเทศไทย

พยากรณ์ได้ว่า ความยุ่งยากในประเทศจะเกิดสถานการณ์ภายในประเทศยังอยู่ระหว่างร้อนรุ่ม และกำลังจะเป็นไฟสุมขอนรุนแรงขึ้นทุกที ไม่มีอะไรแสดงหรือบ่งบอกว่า จะกู้แก้ปมยุ่งในบ้านเมืองนี้ได้ อาจจะเกิดการ จลาจล ได้ และมีม็อบมีอะไรมากมายกว่าที่เคยปรากฏ ต่อเนื่องกันไปหลายเดือน สยามประเทศเราจะเข้าสู่สภาพ “มิคสัญญี-กลียุค” ทำให้เกิดการขัดแย้งภายในประเทศ เกิดมีความคิดเห็นแตกแยกเป็นหลายกลุ่ม จนอาจจะต้องราวีเข้าหาซึ่งกันและกัน ประเทศไทยซึ่งหวังว่าจะเริ่มสันติสุขปรองดองกันสักที ก็ดูจะเลวร้ายยิ่งไปกว่าเดิม และอาจจะบ่งบอกไปถึงเรื่องที่มิอาจจะมีการออมชอมกันได้ถ้าเกิดเรื่อง ฝ่ายรัฐบาลก็จะมีแต่การทะเลาะเบาะแว้งกันภายใน รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลด้วย

ฤกษ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะอุบัติขึ้น ในขณะที่ ดาวมฤตยู(๐) อันเป็นดาวปฏิวัติลอยอยู่เหนือฟ้า และจะย้ายออกจากราศีเมษ ซึ่งเป็นลัคนาของประเทศ ย้ายเข้าไปสู่ราศีพฤษภ ในวันที่ 7 ก.ค.2565 จึงเป็นที่น่าสังเกตอิทธิพลของ ดาวมฤตยู(๐) อาจจะเกิดเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เป็นไปได้อาจเกิดการปฏิวัติรัฐประหารครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาหรือเป็นประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองเรา ซึ่งจะมีการสูญเสียผู้คนจำนวนมาก

นอกจากนั้นจะต้องระวังสุขภาพของบุคคลสำคัญต่างๆ อาจเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างรุนแรง อาจจะเกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญในทางการเมือง อาจจะหมายถึงกลุ่มในรัฐบาล หรืออาจจะเป็นนักการเมือง รัฐมนตรีบางท่านที่อายุมาก มีโอกาสที่จะสูญเสียฉับพลันได้ ร่วงหล่นไป

ส่วนโรคระบาดค่อนข้างน่ากลัว อย่าเพิ่งประมาท ในช่วงนี้ ดาวพระเสาร์(๗) ยังสถิตในราศีมังกรตลอดทั้งปีจนถึงปีหน้า ด้วยเหตุนี้อาจจะทำให้เกิดโรคระบาดโควิดกลายพันธุ์เป็นเชื้อไวรัสตัวใหม่ที่ร้ายแรง เริ่มมีคนล้มป่วยล้มตายมากมาย  และการที่ ดาวมฤตยู(๐) ทำมุมตั้งฉากกับ ดาวพระเสาร์(๗) ถือว่าเป็นจุดอันตรายเท่ากับเพิ่มความรุนแรงให้สิ่งที่ติดตามมาคือโรคระบาด และเรื่องยุ่งยากนานับประการ เข้าลักษณะชะตาเมืองขาด

ทุกอย่างสำแดงความไม่ปกติสุขแก่บ้านเมืองอย่างย้ำหัวตะปูให้แน่นเข้า ทางด้านเศรษฐกิจเป็นช่วงที่เข้าสู่จุดเดือด เป็นระยะวิกฤติและอันตราย เศรษฐกิจตกต่ำสุดๆ เกิดภาวะเงินฝืดเคือง โรงงานปิดตัวลงมากมาย ปัญหาคนว่างงานมีไปทั่วแก้ไม่ตก มีคนฆ่าตัวตายเยอะขึ้น และเป็นระยะที่ ดาวบาปเคราะห์ ทำมุม จตุโกน ซึ่งเป็นช่วงอันตราย ประมาทไม่ได้ทุกทาง ธุรกิจสับสน กระแสเงินตรามีจุดเครียด ภาวะการเงินตึงตัว เราจะเสียเปรียบทางการค้ากับต่างแดน เป็นหนี้สินมากมาย

เศรษฐกิจของประเทศเริ่มตกต่ำครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ข้าวยากหมากแพง หุ้นตกอย่างวินาศสันตะโร ทั้งนี้เหมือนเราต้องเผชิญกับสงครามที่ค่อนข้างใหญ่ในเรื่องเศรษฐกิจ แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ยังถือว่าน้อยกว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้เยอะมาก ถือเป็นอภิมหาวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจ ถ้าเกิดขึ้นจริงกว่าจะแก้ไขได้ต้องใช้เวลายาวนานกว่าการแก้ไขวิกฤติต้มยำกุ้ง ประเทศเราอาจจะถึงขั้นติดลบด้านเศรษฐกิจ

@ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้น กลุ่มอำนาจเดิมในรัฐบาลชุดนี้ยังจะกลับมามีอำนาจในอนาคตได้หรือไม่

ดูจากดวงดาวไม่น่าเป็นไปได้ เพราะมีดวงดาวสำคัญขึ้นมาใหม่เกือบทั้งหมด ดาวมฤตยู(๐) พระราหู(๘) และ ดาวพระอังคาร(๓) มีการย้ายไปสถิตที่ใหม่ทั้งหมดในช่วงนี้ ซึ่งอาจจะมีคนใหม่ส่วนใหญ่ และมีคนเก่าเข้ามาผสมบ้างนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าน่าจะมีกลุ่มอื่นที่ไม่เคยอยู่ในวงการเมืองเข้ามาช่วยบ้านเมืองมากขึ้น ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในทางที่ดีขึ้นในอนาคต แต่หากไม่เกิดตรงนี้ขึ้นมาเราก็จะเป็นเหมือนเดิม 

@ หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป

หลังจากนั้นอาจจะเริ่มดีขึ้น เหมือนเราตั้งหลักใหม่ ทุกคนก็จะเริ่มเข้ามาช่วยกันคนละไม้คนละมือ แต่ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะดีขึ้น โดยการทำให้ทุกคนบริบูรณ์นั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีก 5 ปี นับจากวันที่ 7 ก.ค. 2565 ซึ่งระหว่างนี้อาจจะมีความขัดแย้ง แต่ก็จะค่อยๆเข้าหากัน ถึงจะทะเลากันก็อาจจะน้อยลง ซึ่งน่าจะแรงช่วงกลางปีไปถึงปลายปี แต่หลังจากปี 2565 แล้วทุกอย่างอาจจะเริ่มค่อยๆ ดีขึ้น ค่อยๆ แก้ไขกันไปเรื่อยๆ จนครบ 5 ปี ซึ่งก็ถือว่าเป็นฤกษ์ดี เป็นสิ่งที่ดี แม้อาจจะต้องเกิดอะไรบางอย่างขึ้น สูญเสียบางอย่างบ้าง แต่ก็เป็นไปตามลิขิตของดวงดาวตามหลักการพยากรณ์

@ อยากฝากอะไรถึงรัฐบาลหรือคนทั่วไปเพื่อรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

การพยากรณ์เรื่องดวงดาวต่างๆ เหมือนเป็นตัวชี้นำให้เราได้พิจารณาว่าหากเกิดตามที่พยากรณ์ เราจะทำอย่างไร แต่ถ้าไม่เกิดตามคำพยากรณ์แล้วจะทำอย่างไร ควรนำคำพยากรณ์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งก็ควรจะเริ่มตั้งแต่ช่วงนี้ หันหน้าเข้าหากัน ช่วยให้บ้านเมืองผ่านวิกฤติ หากไม่อย่างนั้นจะเป็นวิกฤติที่ใหญ่มาก หากเรามัวแต่ทะเลาะกัน แล้วไม่ฟังกันแบบนี้