“เคอร์ฟิว”จำกัดการเดินทาง “ล็อกดาวน์”หลายพื้นที่แพร่ระบาดหนัก  ต้องปิดบางกิจการ ที่เหลือเน้นทำงานที่บ้าน Work  from  home  100%  ตลอดสัปดาห์ที่ยกระดับมาตรการเข้มข้นอีกครั้ง เมื่อหันมาดูสถานการณ์

               ยอด“ผู้เสียชีวิต”พุ่งขยับเพดานหลักร้อยคน

               ยอด“ผู้ติดเชื้อ”ทำลายสถิติตัวเองรายวัน 

               และเลวร้ายสุด…

มีผู้ติดเชื้อทยอยเสียชีวิตในบ้าน  ริมทางสาธารณะ ไปจนถึงกลางถนนให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ

คืนวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นคืนที่เชื่อว่าทำเอาหลายคนแทบ“หลับตาไม่ลง” ต่อให้ไม่ใช่ญาติพี่น้องทางสายเลือด  แต่ในฐานะ“เพื่อนมนุษย์” การเห็นคนๆนึงสิ้นลมอย่างโดดเดี่ยว  ณ ที่สาธารณะอย่างเปิดเผยไม่ควรเกิดขึ้น  การรอเก็บศพที่เปรียบได้กับ“การเคารพ”ครั้งสุดท้ายยาวนานแทบข้ามคืน  เป็นภาพหดหู่เกินบรรยาย

ภาพเหล่านี้เกิดขึ้นในเมืองหลวงของประเทศ กลางกรุงเทพมหานคร นัยสำคัญของเรื่องนี้จึงยิ่งสร้างแรงกระทบกระเทือนมากขึ้นไปอีก  

เฉพาะคืนวันที่ 20 ก.ค.มีอย่างน้อย 3 ชีวิตสิ้นลมกลางกรุงอย่างน่าหดหู่ตามที่ปรากฎให้เห็นภาพข่าว เริ่มจากรายแรกพบชายป่วยติดเชื้อโควิด-19 นอนล้มกลางถนนบริเวณที่เรียกว่าตรอกบ้านพานถม ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร

มีการแจ้งว่าพบชายคนดังกล่าวล้มลงตั้งแต่ราว 10.00 น.  เวลาประมาณ 15.00 น.มีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดป้องกันพีพีอีมาช่วยให้อ็อกซิเจนและเจาะสายให้น้ำเกลือกันกลางถนน  แต่ก็สุดยื้อชายดังกล่าวจากไปเมื่อประมาณ 17.00 น. และนอนโดยมีผ้าขาวปกคลุมรออยู่ตรงนั้นตลอดทั้งวัน กระทั่งเวลา 22.00 น. จึงมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการเก็บศพไปชันสูตรตามขั้นตอนต่อไป

รวมเวลาที่ชายคนดังกล่าวนอนรอการช่วยชีวิตและการเก็บศพเป็นเวลากว่า 12 ชั่วโมง

ในคืนเดียวกันรายต่อมามีรายงานพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าร้านศึกษาภัณฑ์ ถนนราชดำเนินกลาง  เขตพระนคร  โดยรับแจ้งว่านอนเสียชีวิตมาตั้งแต่เวลา 18.00 น. ก่อนที่จะดำเนินการเก็บศพในเวลา 22.00 น.

อีกราย เวลาประมาณ 20.30 น.  เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทองหล่อ พบชายนอนเสียชีวิตปริศนา ริมบาธวิถี บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ย่านพระราม 4  โดยผู้พบเห็นแจ้งว่าผู้เสียชีวิตเดินมาล้มลงหมดสติ  ในเบื้องต้นมีเพียงรายแรกที่ยืนยันได้ทันทีว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19

คืนวันที่ 20 ก.ค. จึงเป็น 1 คืนธรรมดาที่ให้ความรู้สึกยาวนานกว่าปกติ  เมื่อภาพการเจ็บ ป่วย ล้ม ตาย ของผู้คนกลางถนน ติดตา สะเทือนใจคนที่ยังหายใจอยู่  ท่ามกลางวิกฤติที่หลายชีวิตอาจไม่มีทางเลือกแม้จะรักษา  หรือเข้าถึงความช่วยเหลือ ขณะที่การเสียชีวิตคาบ้านจากการติดเชื้อภายในครอบครัวทยอยพบเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ

เหตุการณ์ ณ วันนี้ เป็นสัญญาณเตือนที่น่าหวาดกลัวทั้งคนที่ป่วยและคน(ยัง)ไม่ป่วย.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน

[email protected]