“การเป็นพ่อ ไม่ใช่สิ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ชาย แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชายสมบูรณ์แบบ”

ขึ้นชื่อว่าทำงานราชการ ไม่ว่าใครก็อยากเติบโตได้เลื่อนตำแหน่งกันแทบทั้งนั้น โดยเฉพาะวงการสีกากียิ่งแล้วใหญ่ ไม่มีตำรวจนายใดอยากจะย่ำอยู่กับที่ ติดยศเดิมๆ อยู่ตำแหน่งเดิมๆ เป็นเวลายาวนานหรอก

เลยไม่แปลกที่มักจะมีข่าวการซื้อขายตำแหน่งให้ได้ยินเสมอ แล้วก็มีตำรวจจำนวนมาก พยายามหาช่องทางในการได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ด้วยการใช้เงินมาเป็นตัวช่วยในการวิ่งเต้น แต่ถ้าไม่ระวังก็อาจทำให้พลาดท่าเสียรู้ถูกหลอกได้

เฉกเช่นเดียวกับคดีที่ตำรวจกองปราบฯ บุกเข้าจับกุม เจ๊ญา อายุ 53 ปี, หม่อมแฟรงค์ อายุ 53 ปี และ เจ๊โหน่ง อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ”

โดยรวบตัว “หม่อมแฟรงค์” ได้ริมถนนราชพฤกษ์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และจับกุม “เจ๊โหน่ง” ได้ที่ซอยยิ่งลักษณ์ แยกบ้านนาดอกไม้ ต.บ้านฝาก อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ส่วน “เจ๊ญา” ได้เข้ามอบตัวเอง

ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายเป็นนายตำรวจยศ “พ.ต.ท.” รับราชการในตำแหน่ง “รอง ผกก.” พื้นที่ จ.อุดรธานี ร้องทุกข์ว่าเมื่อเดือน ต.ค.64 มีคนแนะนำให้รู้จักกับ เจ๊โหน่ง ที่อ้างว่าสามารถช่วยให้ขึ้นตำแหน่ง ผกก. ได้ แต่ต้องจ่ายเงินค่าวิ่งเต้น 2 แสนบาท

จากนั้นจึงพาผู้เสียหายไปพบ เจ๊ญา และ หม่อมแฟรงค์ ที่ร้านส้มตำเจ๊ญา เมืองทอง ในพื้นที่ จ.นนทบุรี เมื่อไปถึงกลุ่มผู้ต้องหาก็เริ่มพูดจาอวดอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองระดับประเทศ รวมถึงข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน

พยายามสร้างความน่าเชื่อถือชี้ให้ดูรูปภาพที่ เจ๊ญา เคยถ่ายรูปคู่กับผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนที่ใส่กรอบแขวนโชว์ไว้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหาอีกหลายครั้งรวม 5.75 ล้านบาท

แต่เมื่อมีการแต่งตั้งโยกย้ายกลับไม่มีชื่อผู้เสียหายได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น ผกก. และไม่สามารถติดต่อกลุ่มผู้ต้องหาได้เลย ถึงรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอกแล้วแน่นอน

แก๊งนี้กลุ่มผู้ต้องหาทำกันเป็นขบวนการ โดยเริ่มตั้งแต่บุคคลที่มีหน้าที่หาเหยื่อ บุคคลที่แอบอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นตำแหน่งได้ และบุคคลที่มีหน้าที่สร้างความน่าเชื่อถือ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่กลุ่มผู้ต้องหาเตรียมไว้ ก่อนที่จะมีการโอนเงินต่อให้กับคนในขบวนการ

เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ร่วมขบวนการก้พบว่ามีประวัติการกระทำความผิดอื่นรวมกว่า 13 คดี และยังพบบัญชีเงินฝากของ เจ๊ญา มีเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท

ขนาดเป็นนายตำรวจยศระดับ “พ.ต.ท.” ยังพลาดท่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกวิ่งเต้นสูบเงินเกือบ 6 ล้านบาท นี่ยังไม่รู้เลยนะว่าที่ยังไม่ตกเป็นข่าวจะมีอีกสักกี่นาย.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

รับมอบอุปกรณ์

พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น รับมอบอุปกรณ์ที่ใช้ในงานจราจร เพื่ออำนวยความสะดวก ช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับการสนับสนุนจากจากเทศบาลเมืองชุมแพ โดยมีจ่าสิบเอกมนตรี สุวรรณสิงห์ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล เป็นตัวแทนมอบ ณ อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองชุมแพ

เก็บกวาดเศษแก้ว
เมาเป็นเหตุประพฤติตนวุ่นวาย แต่ตำรวจดีมีจิตอาสาทำดีก็ต้องชมเมื่อตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู หลังได้รับแจ้งจากสายตรวจตำบลนาคำไฮ ว่ามีเหตุเมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย 2 ราย รายแรกมีพฤติการณ์ทำลายทรัพย์สินภายในบ้านพักของตน มารดาทนพฤติกรรมผู้ก่อเหตุไม่ได้ จึงแจ้งตำรวจให้นำตัวไปสงบสติอารมณ์เพื่อให้หายมึนเมา ส่วนรายที่สองเวลาใกล้เคียงกัน ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมนำขวดแก้วมาทุบทำลายบนถนนสาธารณะแตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณถนนหน้าบ้านของตนเกรงจะเกิดอันตรายกับผู้อื่นที่สัญจรไปมา จึงได้สั่งการให้ร้อยเวร 2-0 พร้อมสายตรวจ (อินทรี) สภ.เมืองหนองบัวลำภู ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุดที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่ตรวจพบเศษแก้วถูกทุบเกลื่อนถนน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่สัญจรไปมา จนนำไปสู่การติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเศษแก้วที่ตกเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ตำบลนาคำไฮ และชาวบ้าน ได้ช่วยกันเก็บกวาดให้สามารถสัญจรได้ปกติ



**********************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป