เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 2 พ.ค. ร.ต.ท.(หญิง) อชิดา ไผ่โสภา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งมีประชาชนได้ล้อมจับคนร้ายพยายามข่มขืนหญิงสาว บริเวณถนนภายในหมู่บ้านหนองกันเกรา หมู่ 16 ต.บ้านพระ อ.เมือง รุดไปตรวจสอบริมถนนใกล้สวนชาวบ้าน พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เทน่า สีขาวแดง ล้มตะแคงบริเวณข้างทาง ห่างไปประมาณ 20 เมตร มีรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงินดำ จอดอยู่บริเวณไหล่ทาง ส่วนคนร้ายชาวบ้านและพลเมืองดีช่วยกันจับไว้ได้ในสภาพสะบักสะบอม ทราบชื่อนายวีระพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี อยู่ในสภาพมึนเมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม

ตรวจสอบภายในสวนใกล้ที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยการต่อสู้ พบขวดเบียร์เปล่า 1 ขวด คาดเป็นของคนร้ายที่ใช้ทำร้ายเหยื่อ รองเท้าแตะผู้หญิงสีแดง 1 คู่ กางเกงยีน สีดำ 1 ตัวของผู้ก่อเหตุที่ถอดไว้ ส่วนหญิงสาว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่ง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ไปก่อนหน้า เพื่อให้ทีมแพทย์ตรวจร่างกาย เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นมีอาการสาหัสปวดบวมบริเวณศีรษะ เขียวช้ำรอบดวงตาทำให้ลืมตาไม่ขึ้น บริเวณริมฝีปากบนเป็นแผลลึก

จากการสอบถามนายรัตนชัย พาวงษ์ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์และได้ช่วยเหลือหญิงสาวไว้ได้ เล่าว่า ตนกำลังขับรถกลับจากงานประจำปีในเขตเมืองปราจีนบุรี ผ่านมาที่เกิดเหตุสังเกตว่ามีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 2 คัน ตนเห็นว่าผิดสังเกตจึงได้มองบริเวณข้างทางปรากฏว่าพบเห็นมีเงาคนอยู่บริเวณข้างทาง จึงจอดรถและถอยรถกลับมา ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงจอดรถ ก่อนผู้ก่อเหตุได้ตะโกนมาว่าเป็นเรื่องผัวเมียอย่ามายุ่ง แต่ตนก็เอะใจว่าไม่น่าใช่เรื่องผัวเมีย ประกับทางผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงบอกกับตนว่าผู้ชายคนดังกล่าวพยายามข่มขืน จึงเข้าช่วยเหลือหญิงคนดังกล่าว และได้ร้องเรียกพลเมืองดีที่กำลังขับรถผ่านไปมาให้ช่วยจับชายคนดังกล่าวไว้ เบื้องต้นสภาพที่ตนเห็นชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ เดินมาข้างทางในสภาพเปลือยท่อนล่าง มีสภาพมึนเมา และพลเมืองดีพยายามจับกุมใช้เชือกมัดไว้ข้างทาง ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเหตุดังกล่าว

จากการสอบถามนายปัญญา บำรุงวัด อดีตนายก อบต.บ้านพระ ซึ่งบ้านพักอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนกับภรรยาเดินทางกลับจากงานศพในเขตพื้นที่ใกล้เคียง ระหว่างมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงโวยวายร้องให้ช่วย ตนกับภรรยาจึงรีบวิ่งมายังที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้พบว่า พลเมืองดีพยายามจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ ตนจึงได้รีบเข้าไปให้การช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านแฟนหนุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่า แฟนตนทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งในเขตใกล้เคียง ซึ่งเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่แฟนของตนได้เลิกงานและได้แวะซื้ออาหาร กำลังจะกลับบ้าน เป็นเส้นทางที่ใช้อยู่เป็นประจำ จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตนตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับแฟนตน

ขณะที่สอบถามนายวีระพันธ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ยอมรับว่า ตนได้ดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อน ในเขตบริเวณใกล้เคียง ระหว่างที่กำลังจะขี่รถกลับบ้าน ได้สังเกตเห็นผู้เสียหายกำลังซื้ออาหารอยู่บริเวณป้อมตำรวจดงขี้เหล็ก ด้วยความมึนเมาประกอบกับภรรยากำลังตั้งท้อง 5 เดือน จึงได้ขี่รถติดตามผู้เสียหาย พอมาถึงจุดเกิดเหตุได้ใช้ของแข็งตีผู้เสียหาย ทำให้รถเสียหลักลงข้างทางและพยายามลากผู้เสียหาย เข้าไปในป่าหวังข่มขืนกระทำชำเรา แต่มีพลเมืองดีเข้ามาเห็นเหตุการณ์และช่วยเหลือ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนทางผู้เสียหายนั้นต้องรอการตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าถูกข่มขืนหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการข่มขืนจะได้มีการดำเนินคดีต่อไป.