เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 4 พ.ค. พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อม พ.ต.อ.วัฒนา เบ้าศรี ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 นาย นำหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจค้นและติดตามบุคคลเป้าหมายในคดีเครือข่ายค้ามนุษย์บังคับค้าประเวณีเด็กและผู้ใช้บริการ 18 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 12 ราย เป็นฐานความผิดค้ามนุษย์ 4 ราย ผู้ซื้อบริการทางเพศ 11 ราย เป็นผู้ต้องหาอายัดเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 ราย หลบหนีไป จำนวน 1 ราย โดยผู้ต้องหาที่มีอายุมากสุด อายุ 79 ปี มีตำแหน่งเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี และผู้ต้องหาอื่นๆ อาทิ รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ อ.พุนพิน, ข้าราชการครู, นายแพทย์ และทหาร

ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดินทางลงพื้นที่ติดตามการขยายผลจับกุมเกี่ยวข้องในคดี โดยมี พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมประชุมกับคณะทำงานคลี่คลายคดี และร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมตามหมายจับ และควบคุมตัวมาสอบสวน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ แถลงว่า จะเห็นได้ชัดเจนว่า วงจรในพื้นที่ยังมีการละเมิดทางเพศเด็กและสิทธิของเด็กอย่างรุนแรง ซึ่งในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเอ็นจีโอร่วมดำเนินการกับตำรวจ ได้ผู้ต้องหาทั้งที่เป็น ทหาร แพทย์ ลูกอดีตนักการเมือง ได้ขยายผลเพิ่มเติมพบเหยื่ออีก 4 ราย ขยายผลดำเนินคดีได้อีก 18 ราย ผู้ที่เป็นธุระจัดหาให้ดำเนินคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ สมคบค้ามนุษย์ ในส่วนของผู้ใช้บริการ แต่ในส่วนที่สำคัญกว่านี้จากการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดทั้งหมดแล้ว เรายังได้ดำเนินคดีกับในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่บ้านเด็ก (บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี) ชื่อนายเอ็ม มีพฤติกรรมใช้ไม้ทุบตีเด็กเพื่อให้เด็กให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ใช้บริการ อีกส่วนหนึ่งที่เป็นข้าราชการระดับสูงระดับรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้โทรศัพท์เข้ามาสั่งการหัวหน้าบ้านพักเด็ก (บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี) ให้เกลี้ยกล่อมให้เด็กให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เราดำเนินคดีทั้งหมดทั้งรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ในข้อหาขัดขวางกระบวนการสอบสวนสืบสวนกระบวนการค้ามนุษย์และแทรกแซงรวมถึงปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 157 ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งสำนวนการสอบสวนให้กับ ป.ป.ช. ส่วนนายเอ็มดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเด็กที่เป็นเหยื่อและความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 157 ขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวนกระบวนการสืบสวนสอบสวน

“ผู้ขายบริการที่พบเพิ่มต่ำอายุกว่า 18 ปี เข้าข่ายค้ามนุษย์พบเหยื่อเพิ่มเติมเป็นแก๊งซาเซโม มีสมาชิกหลายสิบคนอายุต่ำกว่า 18 ปี ต่ำสุด 15-13-12 ปี พอทราบตัวการที่เป็นคนกลางแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องระดมเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายมาดำเนินการอย่างรอบคอบทำให้สังคมดูแลคุ้มครองสิทธิของเด็ก ในการคุ้มครองผู้เสียหายที่เป็นเด็กเราแยกย้ายเด็ก 6 ราย ไปอยู่ที่กรมคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนแล้วเพื่อความสะดวกในการคุ้มครองพยาน” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่าเด็กที่เป็นพยานในคดีและเข้ารับการฟื้นฟูในบ้านพักเด็กศรีสุราษฎร์ ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายตนเองด้วยการใช้มีดกรีดข้อมือและหน้าท้อง เนื่องจากเด็กมีสภาพความเครียด หลังจากนี้ตนจะพูดคุยกับผู้อำนวยการบ้านพักศรีสุราษฎร์ด้วยเพื่อหาสาเหตุของปัญหาที่เด็กเกิดความเครียดและความกดดันจนทำให้ก่อเหตุ เพราะก่อนจะย้ายไปมีอาการดีขึ้น

รายข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 18 รายในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่เคยถูกจับกุมส่งดำเนินคดีอยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นพนักงานอัยการ โดยในส่วนของผู้ร่วมเครือข่ายค้ามนุษย์จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิดค้ามนุษย์ในการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีโดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี, ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีแม้ผู้นั้นจะไม่ยินยอมก็ตามโดยทุจริต ร่วมกันรับไว้เป็นธุระจัดหาล่อไปหรือพาไปซึ่งบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม โดยมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก ตั้งแต่ 8 ปี-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8 หมื่นบาทถึง 2 ล้านบาท

ส่วนผู้ใช้บริการทางเพศจะถูกดำเนินคดีฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พรากหรือร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร ,พาร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมกันชักจูงส่งเสริมยินยอมหรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กกระทำผิดและกระทำชำเราเพื่อสำเร็จความใคร่ของตนเอง หรือผู้อื่นแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปีในสถานการค้าประเวณี” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ