เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 5 พ.ค. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. พร้อมกำลังตำรวจ บก.ปคม. บก.ป. บก.รน. และ หน่วยงานอื่นๆในสังกัด บช.ก. เปิดยุทธการ “เรือมนุษย์” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.จันทบุรี เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์บังคับใช้แรงงานบนเรือประมง

สำหรับยุทธการดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 ประเทศมาเลเซียได้ส่งกลับแรงงานไทย 44 คน จากการตรวจสอบ พบในจำนวนนี้มี 3 ราย ถูกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์แรงงานประมง จึงสืบสวนขยายผล จนพบว่ามีการทำกันเป็นกลุ่มขบวนการ โดยเริ่มตั้งแต่ กลุ่มนายหน้า จัดหาเหยื่อที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างจังหวัดนั่งรถไฟเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ อ้างว่าจะพาไปทำงานได้รับค่าตอบแทนสูง ก่อนพาไปส่งต่อให้กับเจ้าของเรือประมงแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร โดยกลุ่มนายหน้าจะได้ค่าตอบแทน คิดเป็นเงิน 50,000 บาท ต่อแรงงาน 1 คน

จากนั้นเจ้าของเรือประมง ก็จะนำแรงงานเหล่านี้ลงเรือประมงล่องออกสู่อ่าวไทย ก่อนแอบลักลอบออกนอกเขตน่านน้ำไทย เพื่อไปทำประมงในเขตน่านน้ำประเทศมาเลเซีย โดยระหว่างที่อยู่บนเรือก็จะมีไต๋ก๋งเรือ คอยควบคุมและบังคับให้แรงงานเหล่านี้ทำงานหนักเป็นเวลาต่อเนื่องติดต่อกัน ได้พักวันละไม่เกิน 4 ชม. พร้อมกับ นำยาเสพติดมาให้เสพจนติด เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองให้ยอมอยู่ในความควบคุม หากคนใดไม่ยอมทำตามก็จะถูกทำร้ายทุบตี ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเหล่านี้ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนนำมาสู่การเปิดยุทธการดังกล่าว

อย่างไรก็ตามสำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ ยังได้มีการเปิดใช้ศูนย์ปฏิบัติการ CCOC หรือ Command And Control Operations Center เพื่อคอยประสานงานควบคุม สั่งการจากส่วนกลาง แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ตามจุดต่างๆ แบบเรียลไทม์ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ทั้งนี้สำหรับภาพรวมผลปฏิบัติการดังกล่าว ทางตำรวจสอบสวนกลาง จะมีการจัดแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินการอย่างละเอียดอีกครั้งในข่วงสายของวันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)