เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมศักดิ์ มีสัจจานนท์ ผกก.สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงค์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.ต.จำเริญ อินทร์แก้ว หัวหน้าชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีนครินทร์ ชุด ฉก.เสือดำ หน่วยปฎิบัติการพิเศษพัทลุง นำกำลังปิดล้อมขนำหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายสมบัติ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ก่อเหตุปิตุฆาตแล้วหลบซ่อนตัวอยู่ในขนำหลังดังกล่าว

โดยมีศพนายครื้น (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี อยู่ข้างขนำห่างไปเพียง 2 เมตร เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อมเจรจาให้ออกมามอบตัวแต่ไม่เป็นผล จึงพังประตูเข้าไปแต่นายสมบัติ แอบหลบหนีออกไปทางด้านหลังหายเข้าไปในสวนปาล์มท่ามกลางความมืด ตรวจค้นพบปืนลูกซองยาววางอยู่บนที่นอน จึงนำกำลังบางส่วนปิดล้อมส่วนค้นหากระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางมีดพกอีก 1 เล่ม

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 พ.ค. ร.ต.อ.มานพ สุวรรณมณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ศรีนครินทร์ รับแจ้งเหตุลูกชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิงพ่อตัวเองเสียชีวิต จึงรุดมาตรวจสอบพบชาวบ้านกำลังจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่หน้าขนำ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายกับภรรยาจะมาพักอาศัยอยู่ในขนำเวลาออกมาทำสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุภรรยาผู้ตายเดินกลับไปทำธุระที่บ้านพัก พอกลับมาที่ขนำพบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว

ส่วนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกชายหนีเข้าไปซ่อนตัวในขนำ จึงปิดกั้นพื้นที่ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ สนธิกำลังมาปิดล้อมจับกุมดังกล่าว และจากการตรวจสอบพลิกศพพบบาดแผล ถูกกระสุนปืนลูกซองเข้าหน้าท้อง ชายโครง และมีบาดแผลถูกแทงที่ท้องอีก 1 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 ชั่วโมง จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

สอบสวนเบื้องต้น นายสมบัติ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุใช้ปืนยิงพ่อตัวเองจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าเข้าไป 4 เม็ด แล้วขึ้นมาหาพ่อที่ขนำ เมื่อมาถึงได้แอบเสพกัญชาเข้าไปอีก ระหว่างนั้นพ่อเดินมาเห็นแล้วโกรธและต่อว่าเลยมีปากเสียงกัน กระทั่งตนเห็นพ่อเดินถือมีดพร้าเข้ามาจะฟันจึงใช้ปืนยิงไป 1 นัด เสียชีวิตดังกล่าว แต่จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากสภาพศพมีทั้งบาดแผลถูกกระสุนปืน และมีดแทง จึงควบคุมตัวให้หายจากอาการเมาเพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป