เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นางเอ (นามสมมุติ) มารดาเด็กหญิงวัย 13 ปี และ 17 ปี ที่ถูกทันตแพทย์หื่นทำอนาจารโดยการวิดีโอคอลช่วยตัวเองโชว์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อเอาผิดทันตแพทย์คนดังกล่าวในข้อหาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ฐานความผิดมาตรา 26 กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในความรับผิดชอบของพื้นที่ สน. ทุ่งสองห้อง เนื่องจากวันเกิดเหตุ คือช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เด็กทั้ง 2 คน ได้เดินทางมาพักที่บ้านญาติย่านหลักสี่ เพื่อคัดตัวนักแสดงสำหรับถ่ายงานโฆษณา ก่อนถูกทันตแพทย์คนดังกล่าววิดีโอคอลหา โดยนำไอดีไลน์ของเด็กผู้เสียหายมาจากหน้าโปรไฟล์ TikTok ที่ลงไว้สำหรับหางาน ซึ่งในช่วงแรกที่วิดีโอคอลหามีการพูดคุยแนะนำเรื่องการจัดฟัน ชักชวนให้ทำฟันฟรีที่คลินิก และให้ออกไปหาในยามวิกาล แต่เด็กปฏิเสธ หลังจากนั้นคุยกันเพียง 5 นาที ทันตแพทย์คนดังกล่าวได้ขอดูของลับเด็ก พอเด็กปฏิเสธ จึงช่วยตัวเองให้ดูผ่านกล้องจนสำเร็จความใคร่

ภายหลังจากการเข้าพบพนักงานสอบสวนกว่า 2 ชั่วโมง นางเอ พร้อมทีมทนายนิดา เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยทางผู้ก่อเหตุ ได้นำไอดีไลน์ของลูกสาวมาจากแอพติ๊กต็อกที่ไว้สำหรับหางาน จากนั้นได้มีการวิดีโอคอลมาหา พร้อมชวนคุยหลอกถามที่อยู่ และมีการพูดให้ลูกสาวโชว์หน้าอก แต่ลูกสาวปฏิเสธ ซึ่งระหว่างนั้นอีกฝ่ายก็ได้ช่วยตัวเองไปด้วย ลูกสาวเห็นดังนั้นก็รู้สึกตกใจมาก จึงอัดคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุลูกสาวยังอยู่ในอาการเสียขวัญและตกใจกับสิงที่เกิดขึ้น ส่วนผู้ก่อเหตุขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อเข้ามาเจรจาแต่อย่างใด

นายกรวินท์ เจริญกิจ ทีมทนายนิดา เปิดเผยว่า วันนี้พาผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง โดยผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการไม่เหมาะสม กระทำอนาจารต่อเด็ก จึงได้พาตัวผู้เสียหายมาแจ้งความตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เป็นการกระทำอนาจารต่อร่างกายและจิตใจของเด็ก และเป็นการยุยงส่งเสริม ให้เด็กประพฤติหรือแสดงในลักษณะ ลามกอนาจาร ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนหรือไม่ได้ก็ตาม ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน และปรับไม่เกิน 30,000 บาท และประมวลกฎหมายอาญา มาตร 397 กระทำการคุกคาม รังแก ข่มเหง ทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือ เดือดร้อนรำคาญ โดยในกรณีนี้เข้าข่ายการกระทำลักษณะล่วงเกินทางเพศ มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

นายกรวินท์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาติดต่อขอแจ้งความเพิ่มเติมแต่อย่างใด และหลังจากนี้ทางตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาให้ทราบต่อไป

จากการตรวจสอบพบว่าทันตแพทย์คนนี้เป็นทันตแพทย์เฉพาะทางรักษารากฟันโดยทำงานอยู่หลายคลินิกรวม 6 สาขา ซึ่งขณะนี้ทางผู้บริหารของคลินิกบางสาขาได้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายผิดระเบียบบริษัทหรือไม่ ก่อนมีการพิจารณาโทษต่อไป.