เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีประชาชนพบเห็นซากกระดูกของมนุษย์อยู่ในบริเวณอ่าวคาลวิลล์ ทะเลสาบมี้ด ซึ่งห่างจากลาสเวกัส ไปประมาณ 38 กม. เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่า การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไประหว่างรอการระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายชันสูตรของเขตคลาร์ก เคาน์ตี

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนของหน่วยงานอุทยานแห่งชาติ ก็พบศพมนุษย์อยู่ในถังน้ำมันในบริเวณใกล้กับอ่าวเฮเมนเวย์ หลังจากที่มีประชาชนแจ้งเข้ามา เพื่อให้ไปตรวจสอบ

ศพที่พบในถังเป็นเพศชาย คาดว่าโดนฆาตกรรมในช่วงเวลาระหว่างกลางทศวรรษที่ 1970 จนถึงต้นทศวรรษที่ 1980 โดยอนุมานจากแบบของรองเท้าที่ศพสวมอยู่ สันนิษฐานว่าเดิมที ถังอาจจมอยู่ในทะเลสาบ แต่โผล่ขึ้นมาหลังจากระดับน้ำในทะเลสาบลดลงต่ำ เหลือเพียง 1,055 ฟุต เป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับจากปี ค.ศ. 1937 ซึ่งเป็นเวลา 1 ปีหลังจากที่มีการเปิดใช้งานเขื่อนฮูเวอร์ ซึ่งทำให้เกิดอ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบขนาดใหญ่

เจ้าหน้าที่ยังได้ประกาศเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อาจมีการพบเห็นศพมนุษย์มากขึ้นในบริเวณทะเลสาบหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ ซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวางโดยอยู่ในดินแดนทั้งของรัฐเนวาดาและแอริโซนา และมักถูกใช้เป็นจุดทิ้งศพของแก๊งอาชญากร

ทะเลสาบมี้ดและทะเลสาบพาวเวลล์ เป็นอ่างเก็บน้ำที่เกิดจากการสร้างของมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งในสหรัฐอเมริกา ทำหน้าที่ผันน้ำจากแม่น้ำโคโลราโด เพื่อส่งไปให้ประชาชนจำนวนกว่า 40 ล้านคนใน 7 รัฐ รวมถึงบางส่วนของเม็กซิโกได้บริโภค ทะเลสาบทั้งสองแห่งเคยมีระดับน้ำเต็มเปี่ยมในปี 2543 แต่ปัจจุบันเหลือน้ำเพียง 30% ของความจุทั้งหมด

แหล่งข่าว : usatoday.com

เครดิตภาพ : Getty Images