สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า กองทัพปฏิบัติการโต้กลับทหารรัสเซีย ในหลายเขตรอบเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ และอยู่ทางตะวันออก โดยสามารถยึดหมู่บ้านกลับคืนได้อย่างน้อย 4 แห่ง
Near Stary Saltiv,Kharkiv Territorial Defense fighters eliminated another new ????????T-90M "Breakthrough" tank. The pride of the russian tank industry was destroyed by the Swedish hand-held anti-tank grenade launcher Carl Gustaf.We thank the Swedish people and the King for their help. pic.twitter.com/gCiHNu2QFx
— Defence of Ukraine (@DefenceU) May 10, 2022
ขณะที่เทศบาลเมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน กล่าวถึงสถานการณ์ที่โรงงานถลุงเหล็ก อาซอฟสทาล ว่ายังคงมีพลเรือนตกค้างอยู่ในพื้นที่อีกประมาณ 100 คน และเรียกร้องสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) จัดการอพยพอีกครั้ง พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า กองทัพรัสเซียยังคงโจมตีโรงงานแห่งนี้อย่างหนัก ซึ่งเป็น “ฐานที่มั่นแห่งสุดท้าย” ของทหารยูเครน และกองพันอาซอฟ ซึ่งเป็นนักรบฝ่ายขวาสังกัดกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของยูเครน
Director of National Intelligence Avril Haines: "We assess President Putin is preparing for prolonged conflict in Ukraine during which he still intends to achieve goals beyond the Donbas." pic.twitter.com/brm9o2B3BI
— CSPAN (@cspan) May 10, 2022
ด้านนางอาฟริล เฮยน์ส ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ต้องการบรรลุเป้าหมายที่มากกว่าภูมิภาคดอนบาส หมายถึงพื้นที่ขัดแย้งทางตะวันออกของยูเครน แต่ “ศักยภาพทางทหาร” ของรัสเซีย “เป็นอุปสรรค”
ส่วน พล.ท.สกอตต์ เบอร์เรียร์ เจ้ากรมข่าวกรองทหารบก กล่าวว่า ปฏิบัติการทางหทารของรัสเซียในยูเครน ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา “กำลังเจอกับทางตัน” และ “ยังไม่มีใครเป็นฝ่ายชนะ” ไม่ว่าจะเป็นรัสเซียหรือยูเครน โดยจนถึงตอนนี้ กองทัพรัสเซียสูญเสียทหารยศนายพลแล้วอย่างน้อย 8-10 นาย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลข่าวกรองทหารของสหรัฐและอีกหลายแห่ง บ่งชี้ไปในทางเดียวกัน ว่ารัสเซีย “พร้อมสำหรับสงครามที่ยืดเยื้อ”.
เครดิตภาพ : REUTERS