เมื่อวันที่ 12 พ.ค. น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เบอร์ 11 กล่าวถึงปัญหาและทางแก้สภาพแวดล้อมผู้พิการว่า เมื่อเราเห็นตรงกันว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แปลว่าเราได้ทิ้งเขาไปแล้ว คำว่าเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จึงเหมือนเป็นวาทกรรม พร้อมยกตัวอย่างการเชิญคนพิการใช้บริการลิฟต์ก่อน ดังนั้นภาครัฐต้องปฏิบัติต่อคนพิการในแบบประชาชนทั่วไป ที่ให้โอกาสและให้เกียรติต่อคนพิการ หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันว่า การอนุมัติแต่ละโครงการนั้น บรรทัดแรกของคำของบฯ ต้องชี้ให้เห็นให้ได้ว่าให้เกียรติและโอกาส รวมถึงออกแบบสถาปัตยกรรม การจัดงบฯ ให้กับคนพิการและผู้ที่มีอัตลักษณ์แตกต่างอย่างไร ส่วนในเรื่องสกายวอล์ก ตนไม่ได้ขัดข้องที่จะมีบริการประชาชน แต่ต้องให้ผู้พิการใช้ประโยชน์ได้ด้วย

“ถ้าลงทุนพันล้าน แต่ไม่สามารถทำทางให้คนพิการขึ้นได้ ผมจะไม่อนุมัติโดดเด็ดขาด เมื่อจะดำเนินโครงการใหม่ๆ ไม่ควรคิดแค่ว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่ควรหนุนผู้พิการหรือผู้ด้อยโอกาสให้ไปอยู่ข้างหน้า เรามองสกายวอล์กแล้วรู้สึกว่ามันเป็นสถาปัตยกรรมที่ดี ไปเดินไปเซลฟี่ได้ แต่คนพิการเขาไม่ได้มองว่าเป็นอารยสถาปัตย์ ในใจจะบอกว่าคือความอัปลักษณ์ของสถาปัตย์ ที่ทำให้ทุกคนไม่เท่าเทียมกันและไม่สามารถเข้าถึงได้ เราจะไม่เอาคนพิการไว้ข้างหลัง แล้วบอกว่าไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่กลับปล่อยให้คนพิการไม่ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม”

น.ต.ศิธา กล่าวถึงการปรับ Mindset ข้าราชการจากระบบอุปถัมภ์ที่ทำงานเอาใจผู้มีอำนาจให้มาทำงานเอาใจประชาชน เป็นข้ารับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงจะมีระบบให้ทั้งคนพิการและประชาชนกลุ่มต่างๆ ในแต่ละพื้นที่มีอำนาจกำหนดนโยบาย กำหนดงบประมาณ รวมถึงการเลื่อนลดปลดย้ายข้าราชการ เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่นให้หมดไป ส่วนการแก้ปัญหาต่างๆ ผ่านการกระจายอำนาจ ที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐแก้ปัญหาทุกปัญหาเหมือนลับคมกรรไกรด้านบนอย่างเดียว คือ ทุ่มงบประมาณและโครงการลงไปที่ประชาชน โดยไม่เคยลับความคมของกรรไกรด้านล่างหรือไม่เคยรับฟังว่าประชาชนต้องการอะไร ซึ่งทุกครั้งที่ตนมีโอกาสดำเนินโครงการต่างๆ ได้เชิญผู้พิการไปทดสอบ รวมถึงสร้างระบบห้องน้ำและอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกให้คนพิการที่สนามบินสุวรรณภูมิ จนได้รับการยอมรับและติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก เราจะเชิญเขาไปข้างหน้า เหมือนประชาชนที่เห็นคนนั่งรถเข็น แล้วเชิญเข้าลิฟต์ก่อน หน่วยงานของรัฐต้องทำแบบนี้ ผู้ว่าฯ กทม.ต้องคิดแบบนี้ นี่คือสิ่งที่ตนบอกว่า ผมจะทำในสิ่งที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่เคยทำ และเชื่อว่าไม่เคยมีใครทำมาก่อน

น.ต.ศิธา กล่าวด้วยว่า นโยบายพรรค ทสท. ในการ ”สร้างคน สร้างงาน สร้างเมือง” ที่เป็นมิตรกับทุกคน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผู้พิการ โดยการสร้างคนนั้น ผู้พิการต้องได้รับการดูแลตั้งแต่เกิด การเข้าสู่ระบบการศึกษาที่ต้องสอนให้ผู้มีอัตลักษณ์ต่างๆ สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรี ส่วนการสร้างงานนั้น ในบริษัทต้องมีโควตาให้คนพิการ รวมถึงรถบริการสาธารณะต้องมีที่นั่งสำหรับคนพิการให้ครบถ้วนเพียงพอด้วย.