วันที่ 29 ก.ค.นายวรากร ส้มเตี้ย อายุ 35 ปี เซียนพระชื่อดังแห่งจ.สมุทรสงครามเข้าพบตำรวจหลังตกเป็นผู้เสียหายนำสินค้าฝากส่งลูกค้าทางออนไลน์ แต่มีมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นเจ้าของสั่งยกเลิกสินค้าขอรับพัสดุคืนก็หอบพระเครื่องมูลค่าเฉียดล้านหลบหนีไป โดยทางผู้เสียหายเผยว่าตนได้เจอกับนายรุ่ง พลลาภ คนขับรถแท็กซี่ที่มารับพัสดุแล้วโดยการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางนายรุ่ง เล่าให้ฟังว่ามิจฉาชีพรายนี้ได้โทรศัพท์เรียกแท็กซี่จากศูนย์รถแท็กซี่ในกรุงเทพ ให้มารับพัสดุที่เคอรี่ สาขา 2795 ภายในปั้มน้ำมัน ปตท.ถนนสมุทรสงคราม-อัมพวา ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พร้อมส่งสลิปการรับฝากพัสดุมาให้เป็นหลักฐานในการขอยกเลิกการส่งและรับพัสดุคืนทั้งหมด โดยมิจฉาชีพให้ตนนำพัสดุไปส่งที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปควานหาตัวมิจฉาชีพรายนี้แล้ว

บทเรียนราคาแพง! โวยขนส่งหลงเชื่อง่ายๆ โดนโจรสวมรอยเป็นลูกค้ายกเลิกส่งของ ถูกเชิดพระเฉียดล้าน

นายรุ่งเผยว่าตนได้รับงานจากศูนย์วิทยุแท็กซี่ให้มารับพัสดุดังกล่าวได้รับค่าจ้าง 1,100 บาท ตนก็ไม่รู้ว่าใครยกเลิกพัสดุ แค่เดินทางไปรับของแล้วก็ไปส่งตามที่ศูนย์แท็กซี่สั่งมาเท่านั้น พนักงานไม่แม้แต่จะขอดูบัตรประชาชนของตนเลย แค่ชี้บอกว่าพัสดุอยู่ไหนเท่านั้น ตนไม่รู้เห็นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งสิ้น

ต่อมาทางตัวแทนบริษัทรับส่งสินค้าได้เจรจาชดใช้ความเสียหายจากความหละหลวมของพนักงานเองทำให้เกิดเหตุแบบนี้ โดยทางตำรวจได้สั่งห้ามสื่อมวลชนถ่ายภาพอ้างว่าบนโรงพักถ่ายภาพไม่ได้

ล่าตัวคนร้ายหลอกยกเลิกพัสดุฉกพระเครื่อง ชี้พนักงานทำผิดระเบียบ

ด้านพล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงครามกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า ตอนนี้เจ้าหน้าทราบผู้ต้องสงสัยแล้ว 2 คนเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย ขณะนี้กำลังส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่ที่ผู้ต้องสงสัยมีภูมิลำเนา และประสานตำรวจพื้นที่เฝ้าติดตามผู้ต้องสงสัยแล้ว เพื่อจะตรวจสอบข้อเท็จจริง เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานจะคลี่คลายคดีนี้ได้ เท่าที่ทราบจากการสืบสวนทราบว่าได้มีการจำหน่ายพระที่ผู้ก่อเหตุได้ไปส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนของกลางจะพยายามติดตามคืนมาให้ได้มากที่สุด ส่วนกรณีคนขับรถแท็กซี่นั้นเบื้องต้นเป็นการรับจ้างมาจากศูนย์วิทยุ ซึ่งชุดสืบสวนก็จะตามไปสืบจนทราบว่าเป็นตัวละครเดียวกันกับผู้ต้องสงสัยหรือไม่ต่อไป