ที่ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) เมื่อวันที่ 17 พ.ค. เวลา 10.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 8 พร้อมด้วยทีมงาน ซึ่งมีอดีตผู้บริหารกทม. อาทิ นายจักรพันธุ์ ผิวงาม อดีต รองผู้ว่าฯกทม. นายอรรถพร สุวัธนเดชา อดีตรองปลัดกทม. นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา-อดีตส.ว.ฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่แจกใบปลิวหาเสียงตามสำนักงานต่างๆ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาข้าราชการ และบุคลากร กทม. ต่างมาขอถ่ายรูปกับนายชัชชาติ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และแสดงอาการดีใจ จากนั้นในช่วงบ่าย นายชัชชาติ ได้ลงพื้นที่หาเสียงต่อที่ ศาลาว่าการกทม. 2 (ดินแดง)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 6 ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ศาลาว่าการกทม.ด้วยเช่นกัน โดยระหว่างลงพื้นที่พล.ต.อ.อัศวิน ได้ตะโกนเรียก “อาจารย์ๆ” จากชั้น 3 พร้อมโบกมือทักทายนายชัชชาติ ขณะเดินมาสักการะพระพุทธนวราชบพิตร โดย พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า โชคดีๆ ทุกคน ทำเพื่อสังคม ทำเพื่อประชาชน ใครแพ้ชนะ ไม่เป็นไร ซึ่งนายชัชชาติยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกล่าวว่า “เช่นกันครับ”

นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการลงพื้นที่ได้การกระตอบรับดี แต่ข้าราชการแสดงอาการไม่ได้ ต้องวางตัวเป็นกลาง การลงพื้นที่วันนี้เรามาให้ข้อมูล มาแจกเอกสารนโยบายที่จะมาบริหารกทม. ตนคิดว่าข้าราชการกทม.เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนกทม. เรามาคนเดียวถ้าไม่ชนะใจข้าราชการก็ยากต่อการให้บริการที่ดี ทั้งนี้ทีมงานเรามีทั้งผู้บริหาร และข้าราชการกทม.เก่า มาร่วมทำงานด้วย ล้วนแล้วแต่เป็นข้าราชการ ผู้บริหารน้ำดี มือสะอาด เข้าใจระเบียบ กทม. มั่นใจว่าจะสามารถเดินหน้าทำงานได้ทันทีหากมีโอกาสเข้ามาบริหาร กทม.

สำหรับปัญหาของบุคคลกร กทม.ที่ได้รับการสะท้อนมากที่สุดคือพนักงานหรือลูกจ้างระดับล่าง ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างชั่วคราว กลุ่มนี้จะมีสวัสดิการไม่ค่อยดี บางคนเป็นลูกจ้างชั่วคราว 10 กว่าปียังไม่ได้บรรจุ บางคนโดนปลดออก ซึ่งต้องดูแลกลุ่มเหล่านี้ให้มีสวัสดิการที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นบุคคลที่ไปสัมผัสปัญหาจริง หลายคนมีอาชีพที่เสี่ยง เช่น พนักงานกวาดขยะ พนักงานเก็บขนมูลฝอย ซึ่งประสบอุบัติเหตุหรือได้รับอันตรายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ ครู หรือพี่เลี้ยงที่ดูแลเด็กในศูนย์เด็กเล็ก กทม. ไม่ได้รับสวัสดิการอะไรเลย เหมือนทำงานรายวัน

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า วันนี้ (17 พ.ค.) ระหว่างลงพื้นที่ได้เจอ พล.ต.อ.อัศวิน ก็ได้ทักทายกันตามปกติ ตามระบบประชาธิปไตยซึ่งได้ทักทายผู้สมัครทุกคน ทั้งนี้ ตนให้ความเคารพ พล.ต.อ.อัศวิน ซึ่งอาวุโสกว่าและเป็นตำรวจเหมือนพ่อของตนด้วย

เมื่อถามว่าเหลือเวลา 4 วัน ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.จะเน้นการลงพื้นที่ไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่าไม่มีอะไรมาก พยายามสื่อสารให้ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด จะได้เป็นฉันทามติในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของประชาชน รวมถึงพยายามสื่อสารนโยบายในกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึง และชี้แจงกระแสข่าวลือต่างๆ เช่น กระแสข่าวที่จะแต่งตั้งสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นทีมรองผู้ว่าฯกทม. ซึ่งไม่เป็นความจริง ส่วนกระแสโค้งสุดท้าย ที่ภาษาทางการเมืองเรียกว่า “โค้งสุดท้ายจะสาดสีกันรุนแรงมากขึ้น” มีความกังวลเรื่องนี้หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่าสบายมาก ยืนให้มั่นๆ ไม่กลัวเลย เพราะเราชี้แจงได้ทุกอย่าง ที่ผ่านมาสาดไปหลายกระป๋องแล้วไม่มีอะไร คิดว่าประชาชนเข้มแข็งและมีภูมิคุ้มกันเรื่องนี้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สุดท้ายควรคุยกันเรื่องนโยบาย เรื่องแผนงาน หรือผลงานน่าจะดีกว่า