การแข่งขันเซปักตะกร้อ ในมกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 17 พ.ค. เป็นการแข่งขันในประเภททีมเดี่ยวหญิง มี 5 ชาติ เข้าร่วมแข่งขัน ได้แก่ ไทย, เมียนมา, เวียดนาม, กัมพูชา และ มาเลเซีย แข่งขันแบบพบกันหมด ทีมที่ทำผลงานดีที่สุดคว้าแชมป์ไปครอง นัดสุดท้าย “ทีมตะกร้อสาวไทย” แชมป์ 10 สมัย พบกับ มาเลเซีย นัดนี้ ไทย ยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมมี “อุ้ม ปืนใหญ่” อติกานต์ คงแก้ว (เสิร์ฟ), มัสยา ดวงศรี (ชง) และ สมฤดี ปรือปรัก (ฟาด) และมี วิภาดา จิตพรวน และ เฟื่องฟ้า ประพัศรางค์ เป็นสำรอง

ปรากฏว่า ทีมตะกร้อสาวไทย เอาชนะไปแบบสบายๆ 2-0 เซต 21-12, 21-19 คว้าชัยชนะ 4 ติดต่อกัน โดยไม่เสียเซตให้กับทีมใดเลย ผงาดคว้าแชมป์ทีมเดี่ยวหญิง มาครองได้เป็นสมัยที่ 11 เป็นเหรียญทองที่ 2 ของทีมตะกร้อหญิงไทย และเป็นเหรียญที่ 38 ของทีมนักกีฬาไทย ในซีเกมส์ครั้งนี้อีกด้วย โดย ตะกร้อสาวไทย ยังมีแข่งขันอีก 1 รายการ ในประเภทตะกร้อ 4 คนหญิง ไทย อยู่กลุ่ม A ร่วมกับ มาเลเซีย และ เมียนมา จะแข่งขันวันที่ 20-21 พ.ค.นี้

หลังจบเกม “ซันชิโร่” วีรัส ณ หนองคาย หัวหน้าผู้ฝึกสอนเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย เผยว่า เป็นประเภทที่ไม่ได้มีอะไรให้กังวลใจ จริงๆ ชาติอื่นๆ พยายามพัฒนาฝีมือขึ้นมา แต่ด้วยที่ศักยภาพของเรายังเหนือกว่ามาก บวกกับการที่เรายังมีแข่งภายในประเทศอยู่ตลอด ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้า

“ส่วนรายการสุดท้ายประเภททีม 4 คนนั้น เราเตรียมวางแผนรับและรุกให้แกร่งทุกจุดแล้ว ในเรื่องการทำแต้มเราก็จะวางตัวเตะไว้ทั้งสองหัวมุมเสา ไม่ได้ใช้ตัวเตะเพียงคนเดียว ทำให้คู่แข่งน่าจะเอาไม่อยู่แน่ๆ ส่วนคู่แข่งที่น่าจะทำได้ดีในประเภทนี้มี เวียดนาม, ลาว และ เมียนมา แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะเราต้องคว้าเหรียญทองเท่านั้น” โค้ชโร่ ย้ำ