แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) วันนี้ (18 พ.ค.) จะมีการพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร ว่าจะมีการคงราคาเดิมต่อไปได้อีกหรือไม่หรืออาจจะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 1 บาท/ลิตร ตามแผนเดิมโดยจะต้องประเมินถึงมาตรการลดภาษีฯดีเซลล่าสุด และฐานกองทุนน้ำมันฯเป็นสำคัญ  

“ก่อนหน้านี้รัฐได้กำหนดขยับเพดานดีเซลเพื่อลดผลกระทบกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยจะอุดหนุนเหลือครึ่งหนึ่ง และประชาชนจ่ายครึ่งหนึ่งขณะนั้นกองทุนน้ำมันฯอุดหนุนดีเซลประมาณ 10 บาทต่อลิตร จึงขยับเพดานไปสู่ 35 บาทต่อลิตร แต่เพื่อลดผลกระทบประชาชนจึงทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันไดโดยระยะแรกขึ้นจากเพดาน 32 บาทต่อลิตร จากนั้นจะทยอยปรับขึ้นเฉลี่ยสัปดาห์ละไม่เกิน 1 บาทต่อลิตรแต่ด้วยภาวะค่าครองชีพสูงทำให้การปรับขึ้นยังคงต้องดูผลกระทบกับประชาชนเป็นสำคัญ โดยจะมีการแถลงผลการประชุมวันนี้ เวลา 13.30 น. “แหล่งข่าว กล่าว  

ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ 15 พ.ค. ติดลบ 72,062 ล้านบาทแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 37,854 ล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบ  34,208 ล้านบาท ขณะที่ยังคงมีเงินไหลออกในการอุดหนุนน้ำมันรวมเฉลี่ยวันละ 600 ล้านบาท แอลพีจีวันละ 80 ล้านบาท ซึ่งกบน.ที่ผ่านมาได้พยายามบริหารทุกด้านแม้กระทั่งการลดการอุดหนุนแก๊สโซฮอล์ E 85 ลงแม้จะได้เงินเพียงเล็กน้อยแต่ก็มาช่วยเสริมสภาพคล่องได้ ขณะที่กระแสเงินสดกองทุนน้ำมันฯ มีหมุนเวียน 1.2 หมื่นล้านบาท จะหมดลงจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ ขาดสภาพคล่องช่วง มิ.ย.นี้ ดังนั้น กระทรวงการคลังกำลังหารือกับสถาบันกาเงินภาครัฐเพื่อสรุปแผนเงินกู้ให้กับกองทุนน้ำมันฯ วงเงิน 2-3 หมื่นล้านบาท ภายในสัปดาห์หน้า  

ส่วนราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) กบง. เมื่อ 18 มี.ค.65 ได้เห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาขายปลีก 3 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) โดยปรับขึ้นเดือนละ 1 บาทต่อ กก. เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.) โดยราคา LPG จะขยับเป็น 363 บาทต่อถัง (15 กก.) ในเดือน มิ.ย. ดังนั้นกำลังพิจารณาแนวทางว่าจะสามารถตรึงต่อไปได้มากน้อยเพียงใดขณะที่ต้องยอมรับว่ากองทุนน้ำมันฯ ปัจจุบันอุดหนุน LPG อยู่ถึง กก.ละ 17.79 บาท และขณะนี้ กบน.ได้ขยายกรอบวงเงินการดูแลราคา LPG เป็น 36,000 ล้านบาท หลังจากที่เดิมอยู่ที่ 33,000 ล้านบาท