“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะพบ “การูด้า” อินโดนีเซีย ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลชายซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม วันที่ 19 พ.ค. โดยจะเตะที่สนามเดิมของทีมชาติไทย เธียนตรวงสเตเดียม เวลา 16.00 น. ถ่ายทอดสด ททบ.5 เป็นครั้งแรกที่ไทยเตะเวลานี้ หลังจากรอบแรกเตะ 1 ทุ่มมาตลอด

สภาพทีมช้างศึก รอลุ้นอาการ “เตอร์” วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กองกลางที่เจ็บเล็กน้อย แต่คาดว่าจะฟิตทัน ส่วนผู้เล่นที่ได้พักในเกมสุดท้ายรอบแรกกับ ลาว จะได้กลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมด

11 ผู้เล่นทีมชาติไทย ในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (กัปตันทีม), แบ๊กขวา นาคิน วิเศษชาติ, แบ๊กซ้าย อิรฟาน ดอเลาะ, คู่เซ็นเตอร์ โจนาธาร เข็มดี, ชนภัช บัวพันธ์, กองกลางตัวรับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช, ตัวรุก วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ริมเส้นขวา เบนจามิน เจมส์ เดวิส, ซ้าย เอกนิษฐ์ ปัญญา, กองหน้าตัวเป้า กรวิชญ์ ทะสา

วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กล่าวว่า อินโดนีเซียก็มีคุณภาพอยู่แล้ว ต้องห้ามประมาท ได้วางแท็คติก และทำการบ้านมาอย่างดี อินโดนีเซียเป็นทีมที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ ทุกคนคิดว่าเกมนี้น่าจะหนัก แต่ก็ทำการบ้านมา และเชื่อว่าด้วยคุณภาพของทุกคนในทีม คิดว่าน่าจะเอาชัยชนะมาได้

สำหรับ อินโดนีเซีย คุมทัพโดย ชินแตยัง กุนซือชาวเกาหลีใต้ ที่เพิ่งปะทะผีมือกับ มาโน โพลกิง ในรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ทีมไทย ชนะ 4-0 และเสมอ 2-2 คว้าแชมป์ไปครอง

สถิติที่ผ่านมา ไทย พบ อินโดนีเซีย 22 ครั้ง ไทยชนะ 14 เสมอ 6 และแพ้ไป 2 ครั้ง ไทยยิงได้ 49 ประตู อินโดนีเซียยิงได้ 14 ประตู ทว่าครั้งล่าสุดที่เจอกันคือเกมนัดเปิดสนามซีเกมส์ 2019 ไทยแพ้ 0-2 ก่อนจะตกรอบแรกไป ขณะเดียวกัน คู่นี้เจอกันในรอบรองฯ เฉพาะรอบตัดเชือกนั้น พบกันมา 6 ครั้ง ไทยชนะทั้งหมด และยังผ่านเข้าไปได้เหรียญทองถึง 5 ครั้งด้วยกัน พลาดแค่ครั้งเดียวในปี 1977 เท่านั้น นอกจากนี้ ทีมไทยแพ้รอบรองฯ ซีเกมส์ ครั้งสุดท้าย ต้องย้อนไปครั้งที่ 15 ที่ประเทศมาเลเซีย ค.ศ.1989 หรือเมื่อ 33 ปีที่แล้ว ที่แพ้เจ้าภาพ 0-1

ส่วนอีกคู่ เตะที่เวียตตรี สเตเดียม เวียดนาม พบ มาเลเซีย เตะเวลา 19.00 น.