มิสตี วาลเดซ และ แบรนดอน วาลเดซ มีกำหนดเข้าพิธีแต่งงานกันในช่วงบ่ายโมงของวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมาที่โบสถ์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย 

เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวโดนแยกตัว ไม่ให้เจอหน้ากันก่อนเข้าพิธีตามธรรมเนียมเก่าแก่ โดยเจ้าบ่ายไปค้างคืนที่โรงแรมเบสต์ เวสเทิร์น โคลวิส โคล ซึ่งอยู่ในละแวกนั้น

ในวันพิธี บรรดาเพื่อนเจ้าบ่าวไปพบ แบรนดอน ที่โรงแรมเพื่อเตรียมตัว ขณะที่ฝ่าย มิสตี และกลุ่มเพื่อนเจ้าสาว ก็เตรียมตัวให้พร้อมเช่นกันที่บ้านของเธอ ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการ จนกระทั่งเจ้าบ่าวและเพื่อนก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ของโรงแรม

แบรนดอน เล่าว่า ขณะที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนลงชั้นล่างจนถึงประมาณชั้นที่ 2 ลิฟต์ก็สะดุดและหยุดการทำงาน แบรนดอนและเพื่อนเจ้าบ่าว 5 คน ติดอยู่ในลิฟต์ เพื่อนเจ้าบ่าวคนหนึ่งกดปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉิน และได้รับการตอบรับว่าจะส่งคนมาช่วยพวกเขาในไม่ช้า 

หลังจากผ่านไปราว 20 นาที ทีมช่วยเหลือไม่มาเสียที แบรนดอนและกลุ่มเพื่อนจึงตัดสินใจโทรฯ แจ้งหน่วยดับเพลิงประจำเมือง เพราะว่าพวกเขาต้องรีบไปเข้าพิธีแต่งงาน

เจ้าบ่าว (ผมยาว) และกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าว ขณะติดอยู่ในลิฟต์โรงแรม

เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึง พวกเขาต้องช่วยกันดึงลิฟต์ลงมาชั้นล่างด้วยแรงคน เพื่อให้คนในลิฟต์ออกมาได้ 

ระหว่างนั้น มิสตี ผู้เป็นเจ้าสาวก็รอคอยเจ้าบ่าวของเธอที่โบสถ์ โดยไม่รู้เลยว่าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น เธอรู้แต่เพียงว่าพวกเขาจะมาสายเท่านั้น มิสตี เป็นกังวลว่าเจ้าบ่าวอาจเปลี่ยนใจ ไม่อยากแต่งงานแล้ว แต่เพื่อน ๆ ก็ช่วยกันปลอบว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ รวมถึงบาทหลวงผู้ทำพิธีช่วยปลอบใจ เธอจึงสงบลงได้

มิสตี เพิ่งมารู้ว่า เจ้าบ่าวของเธอติดอยู่ในลิฟต์เป็นชั่วโมง ก็ตอนที่เขามายืนเคียงข้างเธอหน้าแท่นทำพิธี โดยแบรนดอนเป็นคนกระซิบบอก ซึ่งทำให้เธอรู้สึกตกใจมาก

เนื่องจากเจ้าบ่าวมาสายมาก คู่แต่งงานใหม่จึงไม่มีเวลามากพอที่จะถ่ายภาพร่วมกับญาติ ๆ ตามธรรมเนียม ซึ่งทำให้ มิสตี ผิดหวังมาก ขณะที่แบรนดอนก็บอกว่าเขาแทบไม่มีเวลาซาบซึ้ง เพราะทุกอย่างดูเร่งรีบไปหมด

หลังจากวันแต่งงาน มิสตี เรียกร้องให้ทางโรงแรมเบสต์เวสเทิร์นฯ ชดใช้ที่ทำลายวันแต่งงานของเธอ เนื่องจากลิฟต์ที่ใช้การไม่ได้ของทางโรงแรม แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยอีกฝ่ายอ้างว่าเป็นเหตุสุดวิสัยและทำแค่ลดราคาค่าห้องที่เจ้าบ่าวของเธอเช่าไว้เพียงห้องเดียวเท่านั้น มิสตี กล่าวว่าผู้จัดการโรงแรมไม่ขอโทษเธอด้วยซ้ำ

แต่เมื่อเรื่องราวของทั้งคู่กลายเป็นข่าวในสื่อโทรทัศน์เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ทางโรงแรมก็ส่งบัตรกำนัลมูลค่า 500 ดอลลาร์สหรัฐมาให้คู่แต่งงานใหม่ โดยแจ้งว่าสามารถนำไปใช้กับโรงแรมในเครือได้ทุกแห่ง รวมถึงกล่าวอวยพรการเริ่มชีวิตคู่ของครอบครัววาลเดซ ซึ่งคราวนี้ทำให้คู่บ่าวสาวพอใจอย่างมาก และตั้งใจที่จะใช้บัตรของขวัญนี้ในการฮันนีมูนของพวกเขา

แหล่งข่าว : insider.com

เครดิตภาพ : Brandon Valdez