จากกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกมาเปิดเผยถึงการสืบสวนคดี “แตงโม-นิดา” โดยกล่าวอ้างว่า แตงโมถูกฆาตกรรม และได้ยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษรับไว้พิจารณา พร้อมกับยื่นเรื่องให้ผบ.ตร. สอบสวนนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่พยายามทำให้คดีนี้กลายเป็นอุบัติเหตุ ขณะเดียวกันก็เกิดเรื่องชวนสงสัยเมื่อเฟซบุ๊กของแตงโมนิดาได้โพสต์รูปของกระติก อดีตผู้จัดการสาว และรูปบุคคลที่อยู่บนเรือ พร้อมกับข้อความกล่าวอ้างถึงข้อมูลบางอย่างในโทรศัพท์มือถือของแตงโมที่ถูกกู้คืนมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. นายอัจฉริยะ ได้ออกมากล่าวถึงคดีแตงโมผ่านช่องยูทูป โคนันเมืองไทย ว่า ขณะนี้ตนได้แจ้งไปยังนายของตนแล้วว่า ใครเป็นคนฆ่าน้องแตงโม ฆ่าอย่างไร ฆ่าที่ไหน เราได้รับข้อมูลทางลับมาแล้วจากพลเมืองดีที่สำนึกผิด โดยคดีนี้ไม่ใช่คดีประมาท อยากให้อัยการช่วยพักการสั่งคดีก่อน เราจะมีปฏิบัติการพิเศษเพื่อให้เห็นว่าใครเป็นคนฆ่า และฆ่าอย่างไร ตนเชื่อว่าพลเมืองดีที่เริ่มปล่อยของทุก 2 ชม. ตอนนี้เริ่มปล่อยคลิปให้เห็นแล้วว่า ไม่มีการปัสสาวะท้ายเรือ โดยพลเมืองดีจะใช้เฟซบุ๊กของน้องแตงโม ขอให้อย่ากระพริบตาผมว่าคืนนี้่ทั้งคืน

นายอัจฉริยะ ระบุอีกว่า ส่วนตนนั้นในวันพรุ่งนี้จะเรียกประชุมวอร์รูมใหญ่ ในการปฏิบัติการพิเศษภารกิจสำคัญที่ชมรมฯ เฝ้าติดตามทวงความยุติธรรมให้แก่น้องแตงโมมาตลอด 3 เดือนกว่า เดี๋ยวจะมีการเปิดโปงออกมาให้เห็นว่า การสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเป็นอย่างไร เราได้เห็นแล้วว่าใครเป็นคนตัดต่อคลิปวีดีโอแถลงข่าววันที่ 26 เม.ย.2565 มีการใช้กูลเกิ้ลแมบและโฟโต้ชอป สร้างภาพบาดแผลว่าสามารถเข้ากันได้กับใบพัดเรือ และยังไปเชื่อว่าสิ่งที่ “แซน” พูดคือความจริงในการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ว่าน้องแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือกลายเป็นตราบาปให้ตัวน้องแตงโมเอง โดยทางตนจะพิสูจน์ให้เห็นว่าน้องแตงโมไม่ได้ตกเรือตามเวลา 22.34 น. อย่างแน่นอนล้าน%

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า เรื่องฌาปนกิจศพน้องแตงโม ตนยังไม่อยากให้เผา เรามีคำถามมากมายเกี่ยวกับการชันสูตรบาดแผล รวมทั้งผลการตรวจร่างกายคนบนเรือทั้ง 5 คน โดยเฉพาะ “แซน” ที่มีบาดแผลที่ข้อมือขวา แต่ละคนก็มีบาดแผลหมด แล้วแผลนั้นเกิดจากอะไร จริง ๆ เราทราบอยู่แล้วว่า ใครทำอะไรแล้วก็เอาหลักฐานมามอบให้เรา ได้ยืนยันชัดเจนว่าใครทำอะไร ใครทำแบบไหน อย่างไร ประกอบด้วยคลิปวีดีโอต่าง ๆ ภาพนิ่งต่าง ๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ใครเป็นคนเล่นเฟซบุ๊กแตงโม คงไม่ใช่คุณแม่เพราะเล่นเฟซบุ๊กไม่เป็น โดยตนยืนยันว่า คุณแม่จะได้เงินมหาศาลจากคดีนี้ แต่ไม่ใช่เกิดจากความประมาท แต่เป็นคดีที่ฆาตกรรมอำพราง ซึ่งเป็นการทรมานน้องแตงโม อย่างโหดเหี้ยมอํามหิตผิดมนุษย์ เป็นการบันดาลโทสะทำร้ายแตงโมอย่างโหดเหี้ยม เรามีหลักฐานครบถ้วนแล้ว สำหรับตอนนี้ตอนรอการส่งมอบพยานหลักฐานอันสำคัญ และรอว่าจะมีการออกหมายจับในคดีฆาตกรรมอย่างน้อย 3 คน และมีพยานอย่างน้อย 1 คน เป็นพยานที่พยายามช่วยเหลือน้องแตงโม แต่ด้วยความจำเป็นไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ตอนนี้ได้สำนึกผิดแล้ว ได้นำอะไรบางอย่างมามอบให้แก่พวกตน ดังนั้น จุ๊กกรู ก็จุกกรู จุกกรูจะขันไม่ออกแน่นอน หลังจากที่ได้เห็นหลักฐานต่าง ๆ

นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนมีเงินแล้วใช้เส้นสาย ใช้เงินทองวิ่งเต้นเพื่อให้พ้นผิด คิดว่าไม่มีใครทำอะไรได้ มีการกุเรื่องขึ้นมาบนเรือ ความลับทั้งหมดจะถูกเปิดเผยใน 3-4 วันนี้ โดยสิ่งที่รอคอยก็คือการขออนุมัติศาลออกหมายจับคนบนเรืออย่างน้อย 3 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่า ขอให้ประชาชนติดตามดูว่าพยานหลักฐานที่เรามีจะสามารถเอาผิดได้หรือไม่ คดีนี้ไม่ใช่ประมาทอย่างที่ตำรวจทำ คดีนี้มันผิดปกติอยู่แล้วซึ่งปกติตนไม่ค่อยจะเห็นแย้งกับตำรวจเท่าไร แต่ว่าคดีนี้่ คนที่มาดูกล้องให้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นคนมาเรียนรู้จากเรา เดี๋ยวตนจะเปิดหลักฐานให้ดูในวันจันทร์ คนที่บอกว่าคนที่ดูกล้องของตร.ภ.1 เป็นระดับมืออาชีพ แต่ตอนมีไลน์การสนทนากันระหว่างลูกศิษย์ที่มาเรียนรู้จาก ชมรมฯ ซึ่งเราเป็นคนแนะนำในการดูกล้องแล้วยังแย้งไปด้วยว่า น้องแตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ แต่ด้วยความถูกผู้ใหญ่บังคับ แล้วก็เป็นคำสั่งของ พล.ต.ต. จึงต้องจำยอมทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

“…จริงๆ คดีนี้ตนทำงานร่วมกับชุดสืบสวนบางคน ในการช่วยเหลือคดีน้องแตงโมมาโดยตลอด แต่เขาได้มีการพูดว่า ถ้าหากเอาอัจฉริยะ หรือทีมงาน มาทำคดีน้องแตงโมด้วยกัน หรือมาเป็นพยาน แผนการที่วางไว้ก็ฉิบหายหมด ดังนั้นทำอย่างไรก็ได้ที่จะไม่ให้อัจฉริยะเข้ามาอยู่ในสำนวนคดีน้องแตงโม นี่คือสิ่งที่จะบอกคนทั้งประเทศว่าทำไมตนถึงรู้เรื่องเอกสาร ทำไมตนถึงรู้ข้อมูลมากกว่าทุก ๆ คน นั่นก็เพราะเราอยู่เบื้องหลังในการทำคดีน้องแตงโมมาตลอดระยะเวลา 3 เดือน และเราก็รู้ว่ามันมีความผิดปกติตั้งแต่รับงานกันมา จนกระทั่งมีการไม่เอาทีมงานของตน…” นายอัจฉริยะ กล่าว และเผยต่อไปว่า

ดังนั้นหากทางผบ.ตร. ได้รับเอกสารจากตนในวันจันทร์ต่อเนื่องไปทั้งอาทิตย์หน้า ก็คงต้องปวดหัวอย่างแน่นอน เพราะจะต้องมีการดำเนินคดีกับตำรวจอีกหลายนาย สิ่งที่รู้ในตอนนี้เรารู้ไปจนถึงเรื่องที่ใครเป็นคนฆ่า ใครเอามีดกรีดขา ใครเป็นคนถ่ายรูปเราทราบหมดแล้ว จุดตกตรงไหนตนแจ้งกู้ภัยไปแล้วเดี๋ยวเราจะไปลงไปหาหลักฐานอีกรอบหนึ่ง ตรงของจริงตามที่คลิปวีดีโอที่ได้รับมาในเวลา 22 นาฬิกา ไม่เกิน 10 นาที ตนไม่แปลกใจหรอกว่า ที่เจ้าของอู่เอ็นบีซี ได้รับโทรศัพท์ตอน 4 ทุ่ม 20 นาทีในรายการโหนกระแส แต่กลับเป็นประเด็นเมื่อตำรวจบอกว่า แตงโมตกเรือคือ 4 ทุ่ม 34.10 แต่ทำไมเจ้าของอู่ถึงได้รับโทรศัพท์ 4 ทุ่ม 20 คุณรู้ก่อนได้ไงตั้งแต่ก่อน 10 นาที เกือบ 15-16 นาที อันนี้เป็นข้อพิรุทที่เรานั่งดูมาโดยตลอดไทม์ไลน์ ถือเป็นความผิดพลาดของตำรวจ

ตนได้รับคำตอบจากชุดสืบสวนรายหนึ่งพูดต่อหน้าสักขีพยานอีกหลายคนว่า “….ถ้าให้ทีมอัจฉริยะ มาเป็นพยานในคดีน้องแตงโม จะทำให้แผนการที่วางไว้ฉิบหายทั้งระบบ ฉิบหายทั้งสำนวน…” อันนี้คือสิ่งที่ตนได้ยินกับหู ได้ยินโดยมีพยานหลักฐาน ก็คือนายมนตรี อยู่ในเหตุการณ์ มันจึงทำให้เราต้องออกมาชนออกมาสู้ จริง ๆ แล้วน้องแตงโม โดนมีดกรีดขา แล้วรอจนเลือดหยุดไหล ก่อนจะผลักตกหัวเรือ

“…ถ้าผมโดนยิงตาย ก็ไม่ใช้คดีอื่นแล้วคดีน้องแตงโมนี่แหละ พี่น้องประชาชนอย่าทิ้งลูกทิ้งเมียผม คดีนี้อีกไม่นานแล้ว ขอให้ผู้ใหญ่ให้ความร่วมกับผมอนุมัติให้มีการทำอะไรบางอย่าง ผมก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร นอกจากหน่วยงานของชาติ…” นายอัจฉริยะ กล่าวในตอนท้าย