กลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ภายหลังมีข่าวเพจพรรคพลังประชารัฐลบโพสต์นโยบายหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ออกจากเพจพรรคทำให้เกิดคำถามสำคัญตามตลอดช่วง 3 ปีกว่า นโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำรัฐบาล ทำสำเร็จ มากน้อยแค่ไหน ?

วันนี้ ‘เดลินิวส์ออนไลน์’ พาไปทบทวนนโยบายหาเสียงพรรคพลังประชารัฐในช่วงก่อนเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562

(1) กลุ่มเพิ่มค่าจ้าง/ค่าแรง นโยบายที่ยังทำไม่สำเร็จ เช่นค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท/วัน, ปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท/เดือน อาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท/เดือน

ข้อเท็จจริงคือรัฐบาลอนุมัติขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ครั้งล่าสุดต้นปี 2563 จาก 308-330 บาท/วัน เพิ่มขึ้นเป็น 336-313 บาท/วัน จังหวัดที่ได้ค่าแรงสูงสุด 336 บาท/วันคือ ชลบุรี ภูเก็ต, ส่วน กทม., 5 จังหวัด ปริมณฑลได้ค่าจ้าง 331 บาท/วัน สำหรับจังหวัดที่ได้ค่าแรงต่ำสุด 313 บาท/วัน คือ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา, ส่วนเด็กจบปริญญาตรี, อาชีวศึกษา เจอปัญหาว่างงานและจำนวนมากไม่ได้รับเงินเดือนตามที่หาเสียง

(2) กลุ่มภาษี นโยบายที่ทำไม่สำเร็จคือลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของคนไทยร้อยละ 10, เด็กจบใหม่เสนอยกเว้นภาษี 5 ปี, เสนอยกเว้นภาษีพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ 2 ปี

ข้อเท็จจริงคือปัจจุบันรัฐบาลใช้การคำนวณภาษีแบบขั้นบันได 0-35% แบ่งออกเป็น 8 ขั้นโดยจะเพิ่มขึ้นตามเงินได้สุทธิของผู้เสียภาษี, เด็กจบใหม่, พ่อค้า, แม่ค้าออนไลน์ถ้ารายได้ถึงเกณฑ์ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี

(3) กลุ่มสวัสดิการ นโยบายที่ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม เช่น ปลดหนี้นอกระบบผู้ใช้แรงงาน, ปลดหนี้ชาวนา 5 ปี, แก้ปัญหาหนี้ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ, สวัสดิการคนเมืองค่าเดินทาง, ค่าที่พัก, ค่าเล่าเรียนบุตร, ให้สวัสดิการรายกลุ่มกับกลุ่มผู้สูงวัย, กลุ่มผู้พิการ, กลุ่มแรงงาน, กลุ่มอาชีพรับจ้าง

(4) กลุ่มสังคม นโยบายที่ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมเช่นกระจายศูนย์กลางความเจริญสู่ภูมิภาค, สร้างเมืองน่าอยู่ ใกล้บ้านมีงานทำ, สังคมประชารัฐสีขาว ปลอดภัย ปลอดโรค ปลอดยา, Bangkok 5.0 ผุด 9 ย่านนวัตกรรม พัฒนาย่านการค้า คืนคลองสวยน้ำใสให้คนกรุง สร้างเครือข่ายคมนาคมที่สมบูรณ์ ผ่านเทคโนโลยี 5G

(5) กลุ่มเศรษฐกิจ นโยบายยังไม่เป็นผลเป็นรูปธรรม เช่น นโยบายปรับโครงสร้างภาคเกษตร ด้วยนโยบาย 3 เพิ่ม 3 ลดคือ เพิ่มรายได้ เพิ่มนวัตกรรมเพิ่มทางเลือก และลดภาระหนี้ ลดความเสี่ยง ลดต้นทุน, นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจแบ่งปัน, พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต เน้นโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล โดยเฉพาะ 5G, ปฏิรูประบบราชการ ทำให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง

พรรคการเมืองจะเติบโตหรือล้มหาย เกิดจากศรัทธามหาชนที่ให้ความเชื่อใจ และบันไดขั้นแรกของความเชื่อใจเกิดจากการรักษาสัจจะวาจา ไม่ตระบัดสัตย์ที่ให้ไว้กับประชาชน