ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ทีมดังจากอังกฤษ มีคิวลงสนามดวลแข้งกับ รีล มาดริด แชมป์ 13 สมัยจากสเปน โดยการแข่งขันเริ่มต้นช้ากว่ากำหนดถึง 36 นาที เนื่องจากติดปัญหาเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยจนทำให้แฟนบอลหงส์แดงไม่สามารถเข้ามาชมเกมในสนามได้ตามเวลา

ส่วนรูปเกมในครึ่งแรกเป็น ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลบุกได้มากกว่าชัดเจน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอที่จะส่งบอลผ่านมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวาร รีล มาดริด ได้สำเร็จ ขณะที่ในนาทีที่ 43 คาริม เบนเซมา ดาวยิงราชันชุดขาว ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ต้องเฮเก้อเพราะถูก VAR จับเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน จบ 45 นาทีแรกทั้ง 2 ทีมจึงยังเสมอกันอยู่ 0-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง รีล มาดริด ทำเกมได้ดีขึ้น และออกนำไปก่อน 1-0 จาก วินิซิอุส จูเนียร์ ในนาทีที่ 59 ช่วงเวลาที่เหลือ ลิเวอร์พูล บุกแหลก และมีโอกาสลุ้นประตูตีเสมอหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยิงไปติดเซฟของ กูร์กตัวส์ เสียหมด จบเกม รีล มาดริด เชือด ลิเวอร์พูล หวุดหวิด 1-0 คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองเป็นสมัยที่ 14 แถมยังเป็นการคว้าดับเบิลแชมป์หลังจากที่เพิ่งสอยแชมป์ ลา ลีกา มาก่อนหน้านี้อีกต่างหาก

ภาพ REUTERS