สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สนทนาโทรศัพท์แบบสามสาย กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน โดยปูตินเตือนผู้นำทั้งสองประเทศ ว่า การที่ตะวันตกยังคงเดินหน้าสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่ยูเครน ยิ่งเป็นการบ่อนทำลายเสถียรภาพ และห่วงโซ่อุปทานอาหารโลกที่หยุดชะงัก เป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกเอง

ขณะที่ มาครงและโชลซ์กล่าวไปในทางเดียวกัน ตามแถลงการณ์ของรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนี เรียกร้องการหยุดยิงในยูเครน และรัสเซียถอนทหารกลับที่ตั้ง พร้อมทั้งพยายามแสวงหาโอกาส การเจรจาโดยตรงระหว่างปูติน กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และการเปิดท่าเรือที่เมืองโอเดสซา เพื่อให้การส่งออกธัญพืชกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง


อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของทำเนียบเครมลินไม่ได้ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ เว้นเพียงว่า “รัสเซียพร้อมเจรจา” และกล่าวถึง “การสร้างชีวิตที่สงบสุข” ในเมืองมาริอูโปล และพื้นที่แห่งอื่นในภูมิภาคดอนบาส ที่อยู่ทางตะวันออก “ซึ่งได้รับการปลดปล่อย”


ในอีกด้านหนึ่ง สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ออกแถลงการณ์ประณาม กรณีมีการเปิดเผยจากทำเนียบขาว ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มอบความสนับสนุนด้านระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกล ให้แก่ยูเครน.

เครดิตภาพ : REUTERS