เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งปลอมตัวเป็นหญิงชราด้วยการสวมวิกและแสร้งทำเป็นนั่งรถเข็นเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เมื่อเขามาถึงบริเวณโถงแสดงภาพวาด ‘โมนาลิซ่า’ เขาก็กระชากวิกผมออกและวิ่งตรงไปยังรูปภาพพร้อมกับขนมเค้กหน้าครีมในมือ แล้วละเลงเค้กบนภาพวาดชื่อดัง หลังจากนั้นก็โปรยดอกกุหลาบแดงไปทั่วบริเวณ

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบนำตัวชายหนุ่มสุดเพี้ยนออกไป แต่ไม่ได้มีการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด ระหว่างทางที่เขาเดินไปนั้น เขาก็พูดอธิบายถึงแรงจูงใจของตัวเองไปด้วย โดยพูดซ้ำ ๆ ว่า “จงคิดถึงโลกใบนี้” และ “ศิลปินทุกคนต่างคิดถึงโลก” 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาพวาดดังกล่าวมีการป้องกันไว้แล้ว ขนมเค้กที่ดูเหมือนโดนละเลงบนภาพจึงเปื้อนเฉพาะส่วนที่เป็นกระจกกันกระสุนที่ครอบภาพวาดเอาไว้ ไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ แก่ภาพวาดตัวจริง เจ้าหน้าที่เพียงเช็ดคราบขนมออกไป ก็สามารถเปิดให้ชมภาพได้ตามปกติ

โมนาลิซ่า เป็นผลงานภาพวาดของ ดาวินชี่ สันนิษฐานว่าวาดขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1503-1519 (พ.ศ. 2046-2062) ภาพวาดที่โด่งดังนี้เป็นภาพที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และเคยตกเป็นเป้าในการทำลายภาพมาแล้ว เมื่อปี 2499 ส่วนล่างของภาพเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากมีผู้บุกเข้ามาสาดน้ำกรดใส่ภาพ หลังจากนั้นจึงมีการเพิ่มมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

ต่อมาในปี 2552 หญิงชาวรัสเซียคนหนึ่งก็ขว้างถ้วยชาใส่ภาพโมนาลิซ่า ทำให้กระจกป้องกันเกิดความเสียหาย 

ก่อนหน้านี้ ในปี 2454 หัวขโมยชาวอิตาลีได้ลักลอบนำภาพวาดภาพนี้ออกไปจากพิพิธภัณฑ์ ภาพโมนาลิซ่าหายไปราว 2 ปีอย่างไร้ร่องรอย ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อาจสืบหาเบาะแสได้เลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งคนที่ขโมยไป นำภาพมาคืนที่พิพิธภัณฑ์ด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าเขารู้สึกผิด จึงนำภาพมาคืน

แหล่งข่าว : marca.com, ladbible.com

เครดิตภาพ :  twitter/xqTTs