ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีการเสียชีวิตปริศนาของดาราสาว “แตงโม นิดา” ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ พร้อมด้วยทนายความได้ มาออกรายการโหนกระแส ช่อง 3 ดำเนินรายการโดยพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย

โดย “แซน วิศาพัช” เผยว่า ยังยืนยันว่าแตงโมตกท้ายเรือ แต่รายละเอียดไม่ขอพูดเพราะคนจะเอาไปเป็นประเด็นอีก เราเห็นชัดๆ ว่าเขาตกท้ายเรือจริงๆ แต่ทำไมไม่คิดในแง่มุมอื่นกันบ้างว่า ว่าเขาตกลงไปแล้วเกิดอะไรขึ้น เพราะอยู่บนเรือไม่มีใครทะเลาะกัน แล้วเมื่อมีบาดแผลแบบนั้นควรโฟกัสว่าเกิดจากอะไร ถ้ามาบอกว่าคนบนเรือทะเลาะกัน คงไม่มีใครไปลงเรือด้วยกันหรอก มันอึดอัด “พี่หนุ่มว่าแตงโมหลอกง่ายไหมคะ เขาอายุขนาดนั้นแล้ว เรื่องธรรมดากันนัดไปทานข้าว ไม่ควรมาเป็นประเด็นเลยว่ามีการทะเลาะกัน”

“ถ้าแซนไม่เห็น แซนคงไม่ได้มานั่งพูดหรอก แซนไม่ได้เสียสละมารับบทแบบนี้หรอก แซนยังมีอนาคต ไม่ได้อยากเอามาทิ้งแบบนั้น”

“ที่บอกว่ามีมีด K2 อยู่บนเรือ จะเอามาทำอะไรคะ คุณอัจฉริยะไปอยู่ตรงไหนบนเรือคะ เขาเห็นจากภาพนั้น แล้วภาพอยู่ไหน อยากให้เอาออกมามาก จินตนาการเขาสูงมาก” ยืนยันว่า เราขอไม่คุยอะไรอีก ต่อให้จะเข้ามาคุย เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาทำเจตนาอะไร เราก็ยังไม่ทราบ แต่มองว่าเขาให้คนบนเรือเดือดร้อน พาประชาชนออกนอกทะเล แต่เขารออะไรอยู่ เพราะถ้าเขามีหลักฐานเปิดมา 5 คนบนเรือติดคุกได้เลย

“พูดตรงๆ เลยว่ารำคาญมาก เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ควรจะแยกได้ว่าอะไรควรไม่ควร แซนไม่ได้ให้ค่า ไม่ได้สนใจกับคนกลุ่มนี้เลย เรื่องก็ไม่ใช่เรื่องของเขา แต่กลับมาใส่ความว่าทำแบบนั้นแบบนี้ คนบนเรือเสียหายแต่เขาได้อะไรคะ เขาได้แสง แล้วพาประชาชนออกทะเลแบบนี้” ถ้ามีหลักฐานว่าเราฆ่าคน ก็พร้อมเดินเข้าคุกทันที มีหลักฐานก็เปิดมาเลย แต่ถ้าไม่ใช่ก็ฟ้องคืนเหมือนกัน

ส่วนเรื่องการเปิดขวดไวน์นั้นก็ต้องไปถามจ็อบ ว่าเขาใช้อะไรเปิดกันแน่ เพราะเราถือแก้วรออย่างเดียว และคุณปอก็บอกว่าแชมเปญที่เราใช้ดื่มบนเรือก็ใช้มือเปิดได้ ไม่มีมีดอะไร

“5 คนบนเรือพร้อมสาบานที่ศาลหลักเมืองเลย แต่คุณลุงอัจกล้าสาบานด้วยกันไหมคะ ว่าทำเรื่องนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากความยุติธรรมให้กับแตงโมเท่านั้น ถ้ามีหลักฐานก็เปิดออกมาเลย จะได้จบๆ กันสักที จะกล้าไหมละคะ” ส่วนจะให้ไปสาบานที่บุรีรัมย์นั้น ขอปฏิเสธเพราะว่าไกลไป เอาแค่สาลหลักเมืองก็พอแล้ว รอแค่เขากล้าก่อน

“ถึงเวลาทวงยุติธรรมให้คนบนเรือแล้ว ขอโอกาสประชาชนคนไทยลองนึกดู ทุกคนบนเรือไปกินข้าวกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะจริงทุกคนบนเรือน่าจะมีอีคิวพอ ไม่ทำอะไรแบบนั้น คนที่กล่าวหาโตมาแบบไหนถึงคิดแบบนั้น แต่ในสังคมที่เราโตมาไม่มีแบบนี้ ตอนนี้ไม่เป็นธรรมกับตัวเองเลย”

ด้านทนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน ได้เผยว่า เราจะฟ้องกลับแน่นอน ในเรื่องที่คุณอัจฉริยะกล่าวหาว่าคุณแซนให้การเท็จที่ตกท้ายเรือ แต่เราให้คดียุติเรียบร้อย โดยการฟ้องกลับ จะมีทั้งหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา การแจ้งความเท็จและคดีอื่นๆ อีก หลักๆ ก็คือการแจ้งความกับคุณอัจฉริยะแน่นอน

ในกรณีที่คุณอัจฉริยะ จะฟ้องคนบนเรือในมาตรา 289 และ 290 นั้น เขาใช้สิทธิฟ้องได้ ซึ่งถ้าเป็นการฟ้องเท็จต่อศาลหรือแกล้งฟ้องให้ได้รับโทษหนักขึ้น ทางผมจะฟ้องกลับทันที รวมถึงถ้ามีการเบิกความในศาล ก็จะดำเนินการเบิกความเท็จด้วย

ถ้าอัยการยืนตามตำรวจว่าเป็นประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ถ้าหากแม่มองว่าเป็นเรื่องเจตนาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งแม่ต้องมองทางเดียวกัน ถึงจะฟ้องร่วมกับอัยการได้ แต่ถ้าหากแม่มองว่าเป็นมาตรา 289 และ 290 ตามที่คุณอัจฉริยะบอกนั้น เขาก็ฟ้องได้ แต่ผมมองว่ามาสามารถเป็นการฟ้องเท็จได้ เพราะว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้มองมาในทางนี้ ซึ่งกว่าจะไปถึงขั้นศาลไต่สวนมูลฟ้องพร้อมกันแล้วนั้น เชื่อว่าในช่วงก่อนนั้นอัยการจะมีการสั่งฟ้องเรื่องประมาท ศาลอาจจะไม่รับฟ้องทางฝั่งคุณอัจฉริยะก็ได้ ซึ่งถ้าหากผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มาเป็นพยาน ก็จะดูด้วยว่าเป็นข้อมูลให้การเท็จหรือไม่

เราต้องมองแยกกันความเป็นแม่ของผู้เสียหาย แต่เมื่อทำลูกความผมเสียหายก็ต้องฟ้อง “จะดูว่าในทางกฎหมายว่าคุณอัจฉริยะมาเกี่ยวข้องในทางคดีในแง่ไหน ถ้าไม่เกี่ยวข้อง ลูกความผมเสียหาย ผมจะปล่อยไว้ทำไมครับ” ส่วนเรื่องเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท ทางเขาสามารถทำได้ แต่ต้องดูดีๆ เรื่องค่าธรรมเนียม ศาลประมาณ 6 แสนกว่าบาท ถ้าทางเขาแพ้ก็เสียเงินทันที

“เมื่อไหร่ที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง 5 คนบนเรือพร้อม 1 กูรู ว่าเป็นการกระทำประมาทที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทางเราจะฟ้องกลับอีกฝั่งหนึ่งทันที อยากให้คนที่ให้ปรึกษาแม่ เข้ามารับมอบอำนาจหรือว่ามีส่วนร่วม เราไม่อยากให้แม่ต้องมารับผิดชอบคนเดียว”

อย่างไรก็ตาม “แซน” ได้ทิ้งท้ายว่า ในส่วนของคนอื่น เราสวนกลับเต็มเหนี่ยวทันที ส่วนของคุณแม่แตงโม เราขอคิดดูก่อนว่าจะทำอย่างไร เพราะเข้าใจว่าคุณแม่ก็เสียใจมาก..