สื่อท้องถิ่นรายงานว่าเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว วัยรุ่นชาวอินโดนีเซียอายุ 18 ปี จากเมืองตาเงอรัง จังหวัดบันเติน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เนื่องจากโดนรถบรรทุกแล่นทับ หลังจากที่เขาพยายามกระโดดตัดหน้ารถเพื่อถ่ายคลิปไปโพสต์ลงบนแอพ ‘ติ๊กต็อก’ รวมกับเพื่อนอีก 2 คน ส่วนคนขับรถบรรทุกโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้เพื่อสอบปากคำ

บัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเมืองตาเงอรัง ได้โพสต์คลิปขณะเกิดเหตุโดยมีการเบลอภาพหวาดเสียว พร้อมข้อความกำกับที่มีเนื้อหาระบุว่า การกระทำที่ไร้ความยั้งคิดของกลุ่มวัยรุ่น ที่พยายามหยุดรถบรรทุกที่กำลังแล่นมาตามถนนนี้ ได้ทำให้มีวัยรุ่นเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้ข้อมูลว่าในวันเดียวกันนั้น ได้มีการจับกุมและขังผู้เยาว์จำนวน 14 คน ซึ่งต้องสงสัยว่า ตั้งใจจะทำแบบเดียวกับวัยรุ่นในคลิป คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้เจตนากระโดดตัดหน้ารถบรรทุกที่กำลังแล่นอยู่บนถนน เพื่อพิชิตภารกิจเสี่ยงตายที่มีการท้าทายกันบน ‘ติ๊กต็อก’ ที่มีชื่อว่า ‘ทูตมรณะ’ 

ก่อนหน้าเหตุการณ์ในตาเงอรัง ก็มีวัยรุ่นชาย 2 คน จากเมืองบันดุงกระโดดตัดหน้ารถบรรทุกเช่นกัน ส่งผลให้รถบรรทุกคันหนึ่งชนร่างของวัยรุ่น 1 ใน 2 คนนั้น ซึ่งมีอายุเพียง 14 ปี จนฟันหักและกะโหลกศีรษะแตก ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่คนขับรถบรรทุกได้หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ

เมื่อเดือน ก.ค. ของปีที่แล้ว วัยรุ่นคนหนึ่งก็เสียชีวิตระหว่างพยายามทำภารกิจเดียวกันนี้ในเมืองเบกาซี 

ตามรายงานข่าวของสื่อท้องถิ่น มีเพียงรายเดียวที่ประสบความสำเร็จในการทำให้รถบรรทุกเบรกได้ทัน ก่อนที่จะชนร่างของวัยรุ่นที่ทำภารกิจท้าความตาย

กระแสของภารกิจ ‘ทูตมรณะ’ นี้มีมานานสักระยะหนึ่งแล้ว และยังมีวัยรุ่นที่พยายามเอาชนะความตายเป็นประจำจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับกระแสภารกิจเสี่ยงตายอื่น ๆ บน ติ๊กต็อก ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไปหลายคน ขณะที่เจ้าของแพลตฟอร์มยังไม่สามารถกำจัดกระแสการโพสต์คลิปเสียงตายแบบนี้ได้สำเร็จ 

เมื่อเดือนที่แล้ว แม่ของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ รายหนึ่งจากรัฐเพนซิลเวเนีย ได้ยื่นฟ้องต่อศาล โดยมีจำเลยเป็นบริษัทไบต์แดนซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มดังกล่าว มีส่วนชักจูงให้ลูกสาวของเธอเข้าร่วมทำภารกิจท้าทายความตายที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกลั้นลมหายใจหรือใช้วิธีการอื่น ๆ เพื่อให้ตัวเองขาดอากาศจนสลบไป ส่งผลให้ลูกสาวของเธอเสียชีวิตจากการทำภารกิจตามกระแส

แหล่งข่าว : coconuts.co, insider.com

เครดิตภาพ : Getty Images