เมื่อวันที่ 1 ส.ค.  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.เป็นประธานการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์  โดยนายกฯรายงานในที่ประชุมถึงการเตรียมรับวัคซีนจากต่างประเทศวัคซีนสปุตนิกวี โดยจะเร่งเรื่องเอกสารทางฝั่งบริษัท และเร่งฉีดให้กับแพทย์ และบุคลากรที่ต้องทำงานด่านหน้า รวมถึงการใช้ชุดตรวจ Rapid Antigen Test  จะต้องรัดกุม และเชื่อมกับโรงพยาบาล รวมทั้งจะต้องควบคุมราคา และคุณภาพด้วย ขณะที่การรักษาพยาบาลให้มีระบบที่เชื่อต่อกัน ทั้งสมุนไพรฟ้าทะลายโจร การดูแลแพทย์ บุคลากรด่านหน้า ในทุกๆเรื่อง  และสิทธิประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ให้มีการเบิกจ่ายให้เร็ว และขณะนี้กำลังพิจารณาสิทธิพิเศษหากมีความจำเป็น

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในต่างประเทศยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง เช่นในประเทศอินโดนีเซีย  และประเทศสหรัฐอเมริกา สายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับผู้ฉีดวัคซีนแล้ว และประกาศให้ใส่หน้ากากแล้ว  และยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากวัคซีนไม่สามารถเอาอยู่ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงเทพฯเริ่มลดลง แต่ในต่างจังหวัดตัวเลขเพิ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ในอีก 1-2 เดือนตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศจะเพิ่มขึ้น รวมถึงสภาพเตียงทั้งในภารรัฐ และเอกชน 3 หมื่นกว่าเตียง เต็มหมด จึงต้องเข้าระบบแยกกักตัวแบบดูแลตนเองที่บ้านHome isolation และระบบกักตัวในชุมชน (Community Isolation) ยังพบการระบาดในโรงงาน ไปสู้ชุมชนค่อนข้างสูง

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังรายงานเรื่องความคืบหน้าการจัดหาวันวัคซีน ว่า ยังคงเจรจาซื้ออย่างต่อเนื่อง  และในเดือนส.ค.นี้ จะมีเข้ามา 10ล้านโดส โดยจะจัดสรรให้ทั่วถึง ตามกลุ่มเป้าหมาย ทั้งสูงอายุ และกลุ่มโรคเสี่ยง  7 โรค  และขอให้จัดหาวัคซีนไฟเซอร์ให้ครบ 30 ล้านโดสภายในปี 64

ด้านนายกฯ สั่งการให้หาข้อมูลสื่อสารเรื่องสายพันธุ์เดลต้าให้ประชาชนเข้าใจ อย่าให้ประชาชนตื่นตระหนก และให้มีการจัดหาเตียงเพิ่มเติม เพื่อขยายรองรับ เช่น โรงพยาบาล ระบบแยกกักตัวแบบดูแลตนเองที่บ้านHome isolation และระบบกักตัวในชุมชน (Community Isolation) อย่าให้ประชาชนตื่นตระหนกว่าเตียงไม่มี  และขอให้ตรวจเชิงรุกเข้มข้น เพราะไม่เข้าการควบคุมการระบาดของโรคในสถานประกอบการ( bubble and seal )ทั้งนี้  นายกฯยังห่วงเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 ในการชุมนุมขอให้ใช้กฎหมายที่มีอยู่  อย่างไรก็ตาม นายกฯอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกับทุกภาคส่วนในชุมชน สร้างชุมชนปลอดเชื้อโควิด-19 เป็นชุมชนสีฟ้า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม

ส่วนการประเมินผลล็อกดาวน์ที่ผ่านมามีผล 20 เปอร์เซ็นต์ โดยหากเปรียบเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันที่ได้รับรายงานในสถานการณ์จริง กับตัวเลขคาดการณ์จากโมเดล พบว่า ตัวเลขคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,000 ราย ล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25 เปอร์เซ็นต์ นาน 2 เดือน+  เร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุให้ถึงเป้าหมายใน 1 ถึง 2 เดือน ส่วนการประเมินสถานการณ์คาดการณ์จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อในสถานการณ์จริง 25,000 ราย  และตัวเลขคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 30,000 ราย ล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 20 เปอร์เซ็นต์.