สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ว่า จากกรณีเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญทั้งเกาะไต้หวัน เมื่อชาวไทยสังหารโหดเพื่อนร่วมชาติ 2 ราย แต่ผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิงตั้งครรภ์บุตรแฝดด้วย โดยตำรวจให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งเรื่องเงินนั้น


สำนักงานตำรวจเขตจงลี้ ในเมืองเถาหยวน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวัน ซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่เกิดเหตุ ออกแถลงการณ์ว่า พนักงานสอบสวนเชื่อว่า “นายหวัง” ชายชาวไทยเชื้อสายจีน วัย 35 ปี คือผู้ก่อคดีสะเทือนขวัญครั้งนี้ มีปัญหาเกี่ยวกับข้อตกลงทางการเงินกับผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นสามีภรรยาชาวไทยเชื้อสายจีน และตำรวจเผยเพียงนามสกุล “ลี” ทั้งสามคนรู้จักกันมานานประมาณ 2-3 ปี ตั้งแต่อยู่ที่ประเทศไทย และเดินทางมาศึกษาที่วิทยาลัยในไต้หวัน แต่คนละแห่ง

東森新聞 CH51


ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวิดีโอวงจรปิดบริเวณสถานีรถไฟเถาหยวน บันทึกภาพของนายหวังได้อย่างชัดเจน ว่าเป็นผู้ขับรถยนต์เอสยูวี บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ สีขาว ของผู้เสียชีวิต มาจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถภายในสถานีรถไฟ เมื่อช่วงรุ่งสางของวันที่ 9 มิ.ย. แล้วรีบเดินหลบหนีไป และกล้องวิดีโอวงจรปิดอีกจุก ที่เขตถู่เฉิน ของนครนิวไทเป จับภาพผู้เสียชีวิต 2 คน เดินอยู่บนถนนสายหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 8 มิ.ย.


หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าและมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากท้ายรถยนต์คันนี้ จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายและหญิง อายุระหว่าง 30-40 ปี สภาพศพมีบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกตีที่ศีรษะด้วยของแข็ง และเสียชีวิตมาแล้ว 2-3 วัน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตรวจสอบจนพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ปรากฏว่าฝ่ายหญิงกำลังตั้งครรภ์ทารกแฝด มีอายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน เจ้าหน้าที่จึงนับผู้เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมครั้งนี้เป็น 4 ราย


อย่างไรก็ตาม นายหวังเดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ด้วยเที่ยวบินเจเอ็กซ์741 ของสายการบินสตาร์ลักซ์ ทางการไต้หวันได้มอบข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดให้แก่หน่วยงานของไทยแล้ว เพื่อประสานติดตามจับกุมตัวคนร้ายมารับโทษตามกฎหมาย


ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยกล่าวถึงคดีนี้เพียงว่า ยังไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้มากกว่านี้ แต่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานเพิ่มเติม โดยระบุชื่อของผู้เสียชีวิตหญิง คือ นางลี เฟิน-ฟาง ซึ่งเดินทางกลับไทยไประยะหนึ่งหลังจบการศึกษา กลับมาที่ไต้หวันเมื่อปี 2554 และได้รับสถานะผู้อยู่อาศัยถาวรผ่านมารดา แล้วแต่งงานและก่อตั้งบริษัทรับจัดหาแรงงานชาวไทยร่วมกับสามี และให้นายหวังเป็นหุ้นส่วน แต่นายหวังต้องการส่วนแบ่งมากขึ้น เนื่องจากกิจการเติบโตต่อเนื่อง แต่สามีภรรยาลียังคงให้เงินเดือนเท่าเดิม ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นชนวนของการสังหารโหดในที่สุด.

เครดิตภาพ : Radio Taiwan International ( RTI )