เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายทวิช สมหวัง ประธานชมรมผู้ประกอบการหาดริ้น ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการหมู่บ้านหาดริ้น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้หาดริ้น เปิดเผยว่า ตามที่กรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง สภาผู้แทนราษฎร เสนอให้นำกัญชามาใช้ในงานฟูลมูนปาร์ตี้ เพื่อประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว ว่า ส.ส.ไม่รู้อะไร ยังไม่ทราบงานฟูลมูนคืออะไร จะเอากัญชามายำกับงานฟูลมูนปาร์ตี้ ไม่มาคุยกับผู้ประกอบการ หรือไม่มาคุยกับประชาชนในพื้นที่ก่อน ไม่ทราบรู้เรื่องฟูลมูนดีหรือยัง ขออนุญาตชุมชนหรือยัง งานฟูลมูนปาร์ตี้มีเจ้าของ ชาวบ้านหาดริ้น เกาะพะงันเป็นคนสร้าง ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติสร้างขึ้น

นายทวิช กล่าวว่า ที่นี่เป็นพื้นที่เปิดกว้างเป็นพื้นที่สันทนาการต้องมีการจัดระเบียบ มี กมธ.แต่ไม่เอาผู้รู้ไปคุยด้วย เพราะเราเป็นผู้จัดงานต้องรับผิดชอบ จะเสนออะไรต้องมาคุยกับเราก่อน ถ้าเสียหายไปเกาะพะงันก็เสียหาย ไม่ใช่มีกัญชาจู่ๆจะเฮโลเอามาที่นี่ได้ ตนเคยเสนอให้เกาะพะงัน เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในเมืองท่องเที่ยวหลักร่วมกับ เกาะสมุย เกาะเต่า ซึ่งจะรองรับการพัฒนาท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวเข้ามาได้มาก แต่ก็ยังติดข้อกฎหมาย

“จริงๆกลัวจะคุมไม่อยู่ กฎหมายหรือ พ.ร.บ.ยังไม่ออก ไม่รู้มีเจตนาปล่อยให้เป็นช่องว่างปล่อยผีหาวิธีระบาย การใช้กัญชาจะต้องมีมาตรการที่มาดูแลและควบคุมขึ้นทะเบียน เช่น สูบได้ตรงไหน ผู้ปลูกต้องจดแจ้ง คำว่า กัญชาเสรีไม่ควรใช้ แต่ทำอย่างไรให้ถูกต้องและสมดุลการกินการใช้ ไม่ใช่เต็มที่แบบพี้กันควันโขมง จะสันทนาการเพื่อการท่องเที่ยวต้องถูกหลักมีการควบคุมดูแล” นายทวิช กล่าว

นายมานพ แซ่เตี่ยว ชาวบ้าน อ.เกาะพะงัน กล่าวว่า การนำกัญชามาใช้การท่องเที่ยว ถ้ามองแง่เศรษฐกิจก็อาจจะดี แต่มองสังคมน่าเป็นห่วงเพราะกฎหมายยังคลุมเครือ ควรให้ความสำคัญทำให้สังคมเข้มแข็งมากกว่า เพราะเป็นหลักของประเทศ ไม่งั้นเด็กๆติดกัญชากันหมด กรรมาธิการอย่าเอากัญชามาเป็นตัวหลักการท่องเที่ยว เพราะเกาะพะงันมีอย่างอื่นดีอยู่แล้ว ตนไม่เห็นด้วยและเป็นห่วงว่าคนเมากัญชาจะขับรถเกิดอุบัติเหตุ การลักขโมยจะตามมา ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นข้อกังวลที่หวังแต่จะอำนวยสะดวกให้ชาวต่างชาติเท่านั้นหรือ

ไเกาะพะงัน มีประชากร 17,000 คน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5,000-7,000 คน ประเพณีวัฒนธรรมเราจะสูญไปหรือไม่ ชาวต่างชาติที่มาอยู่เกาะพะงัน ควรที่เรียนรู้วัฒนธรรมที่นี่เช่นเดียวกับเราไปประเทศอื่น กลายเป็นว่าเรากำลังเสียอธิปไตย หรือสูญเสียความมั่นคงของชาติ อย่ามองเศรษฐกิจอย่างเดียวเราไม่เห็นด้วย จะไปหวังรายได้อย่างเดียวไม่ได้ คิดถึงผลสะท้อนกลับสังคมด้วย เกาะพะงันมีจุดขายแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมากมาย ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดปาร์ตี้ขายยาเสพติด” นายมานพ กล่าว

ด้านนายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 8 กล่าวว่า ในทางกฎหมายสามารถทำได้ เนื่องจากปัจจุบันกัญชาได้ถูกปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติด แต่ในส่วนตัวในฐานะของผู้บังคับใช้กฏหมายและรับทราบถึงปัญหาของการใช้สารเสพติด ยังมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่ยังขาดความยั้งคิด ซึ่งหากผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะพื้นที่ที่จะจัดให้มีปาร์ตี้กัญชาไม่มีมาตรการในการป้องกันควบคุมอาจจะส่งผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่เราจะได้รับ

นายพีระ กล่าวด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือ ตลอดที่ผ่านมาฟูลมูนปาร์ตี้มีการลักลอบใช้สารเสพติดจากกัญชา แม้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะมีความพยายามในการกวดขันจับกุมก็ตาม และเราจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการลักลอบใช้กัญชาเป็นยาเสพติดได้ส่งผลถึงปัญหาอาชญากรรม แต่หากปาร์ตี้กัญชาจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของงานฟูลมูนปาร์ตี้จริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีมาตรการที่รัดกุม ทั้งการใช้สารเกินขนาด รวมถึงสถานที่จะต้องเป็นเขตเฉพาะเพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแล

นายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในฐานะนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี และในฐานะประธานคณะกรรมการการใช้กัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 11 เรายังคงยืนยันให้มีการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์สำหรับทางการแพทย์เท่านั้น ยังไม่มีแนวปฏิบัติให้มีการใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการ และการใช้สาร THC ในกัญชาเข้าสู่ร่างกายเกินกว่า 0.02 มิลลิกรัม ยังเป็นความผิดฐานเสพสารเสพติด ส่วนอนาคตจะมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาล