ความคืบหน้าปัญหาการร้องเรียนกรณีความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับเงินรายได้สลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่ง “เสธ.ตุ้ย” พล.อ.กะสิณ ทองโกมล นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักคนพิการไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการกีฬา (กมธ.กีฬา) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบเกี่ยวกับเงินรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลของสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งอ้างมูลค่าความเสียหาย มากกว่า 2,400 ล้านบาท กระทั่ง ล่าสุด เสธ.ตุ้ย ยื่นหนังสือถึง การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ให้เพิกถอน สมาชิกภาพสมาชิกสามัญ “สมาคมกีฬาคนพิการ” รวม 15 แห่ง ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ส่อมหากาพย์! ‘เสธ.ตุ้ย’ จี้ ‘กกท.’ เพิกถอนสมาชิกสามัญฯสมาคมกีฬาคนพิการ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ขอชี้แจงเป็นข้อๆ ดังนี้ 1 สมาคมกีฬาคนพิการฯ ได้รับการจัดสรรสลากกินแบ่งรัฐบาลจากสำนักงานสลากกินแบ่งฐบาลมาตั้งแต่สมัยท่านนายกสมาคมฯ คนก่อน 12,000 เล่ม, 2 ได้มีการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนนี้ให้กับสมาชิกหมดแล้วตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคม เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.พ.ศ.2559 3 ค่าบริหารจัดการที่สมาคมฯ ได้รับคือ 2% ที่ได้จากในสัญญาที่ทำไว้กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยสมาคมฯ จะรับไว้ทั้งหมด แต่จะให้สมาชิกกลับคืนไปเพื่อเป็นการลดต้นทุนราคาสลากฯ และเพื่อประโยชน์ต่างๆ ของสมาชิกในทุกๆ ด้านจำนวน 1% และเพื่อลดขั้นตอนยุ่งยากไม่ต้องโอนเงินกลับไปกลับมา จึงให้สมาชิกหักไว้เลยส่วนอีก 1 % สมาคมจะเก็บไว้บริหารจัดการโดยเป็นไปตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 25 มี.ค.พ.ศ.2559 (สมัยนายกสมาคมคนก่อน)

4 สลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ถูกจัดสรรไปหมดแล้วตั้งแต่สมัยก่อนที่ตนจะเข้ารับตำแหน่ง เมื่อมีการรับสมาชิกสามัญใหม่ที่เป็นองค์กรประเภทชนิดกีฬาและมีความประสงค์จะขอรับการจัดสรรสลากกินแบ่งรัฐบาลไปจำหน่าย สมาคมกีฬาคนพิการฯ ก็ได้ชี้แจงว่าสลากได้ถูกจัดสรรไปก่อนหน้านี้หมดแล้ว สมาคมกีฬาคนพิการฯ ไม่สามารถที่จะไปลบหรือเปลี่ยนแปลงรายชื่อสมาชิกที่ได้รับการจัดสรรอยู่เดิมได้ เพราะจะเป็นการลิดรอนสิทธิของสมาชิกแล้วเค้าคงต้องเดือดร้อนเป็นอย่างมาก หากสมาคมกระทำการดังกล่าว ดังนั้นสมาชิกที่ต้องการรับสลากกินแบ่งรัฐบาล จำหน่ายคงต้องรอนโยบายจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในการจัดสรรสลากเพิ่มซึ่งหลายๆ องค์กรก็เข้าใจเป็นอย่างดี จะมีก็เพียงองค์กรเดียวคือสมาคมกีฬายกน้ำหนักคนพิการไทย ที่ออกมาเรียกร้องตามที่ปรากฏตามข่าว ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าสลากได้ถูกจัดสรรไปหมดแล้ว เพราะได้เข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคมฯ ทุกครั้ง ย่อมต้องทราบถึงข้อมูลนี้ดี การกระทำดังกล่าว จึงถือเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลไม่มีธรรมาภิบาล และเป็นการออกมาเรียกร้องเพื่อเป็นการทำลายสมาคมกีฬาคนพิการฯ และนายกสมาคมฯ อย่างชัดเจนโดย อาจมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง

5 การที่ พล.อ.กะสิณ ทองโกมล อ้างว่า สมาคมกีฬายกน้ำหนักคนพิการไทย มีชื่อได้รับโควตาสลาก แต่ปรากฎว่าไม่มีสลากมาจำหน่าย แต่กลับมีรายชื่อในโควตาของสมาคมกีฬาคนพิการฯ ที่มีการประกาศผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จทั้งสิ้น เพราะข้อเท็จจริงคือในการทำสัญญากับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สมาคมกีฬาคนพิการฯ ซึ่งมีสถานภาพเป็นนิติบุคคล ไม่สามารถส่งรายชื่อที่มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลเช่นเดียวกันเพื่อรับสลากได้ หากสมาคมกีฬายกน้ำหนักคนพิการไทย อ้างว่าสมาคมกีฬายกน้ำหนักคนพิการไทย มีรายชื่อรับการจัดสรรโควตาสลากจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จริงก็สามารถไปรับสลากฯ โดยตรงกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้เลย โดยไม่ต้องผ่านสมาคมกีฬาคนพิการฯ แต่อย่างใด

6 กรณีมีการกล่าวหาว่ามีการนำสมาคมผู้ค้าสลากต่างๆ เข้ามาเป็นสมาชิกของสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ โดยไม่ถูกต้องนั้น ตนขอเรียนว่าสมาคมเหล่านี้ล้วนเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ มาไม่น้อยกว่า 20 ปี และได้ช่วยกันสร้างนักกีฬารับใช้ทีมชาติไทยมาโดยตลอด ซึ่งย้อนหลังไปหลายปีที่แล้วการสนับสนุนกีฬาคนพิการของประเทศไทย ยังไม่ได้มีมากขนาดนี้ สมาคมผู้ค้าสลากฯ ต้องใช้เงินจากการขายสลากฯ เข้ามาสนับสนุนดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งที่พักอาหารหลักและอาหารเสริมชนิดต่างๆ ของนักกีฬาในสังกัดของตัวเอง และเมื่ออยู่มาวันหนึ่งมีสมาชิกสามัญใหม่ (สมาคมกีฬายกน้ำหนักคนพิการไทย โดย พล.อ.กะสิณ ทองโกมล ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวของทีวีช่องหนึ่งถึงประเด็นดังกล่าวนี้) ซึ่งถือเป็นการให้สัมภาษณ์ที่ปราศจากการรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง

“ผมเองก็อยากจะถามกลับไปที่ตัวท่านเองเหมือนกันว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ท่านได้ช่วยเหลือและสนับสนุนสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ ให้ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงอย่างไรบ้าง” นายชูเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย