เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.สุภาพร (สงวนนามสกุล) อาชีพแคดดี้ พักบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า นายวัชระ (สงวนนามสกุล) สามี พนักงานบริษัทเอกชน และบุตรชาย ได้ถูกเจ้าหนี้เงินกู้สุดโหด รุมทำร้ายร่างกายจนทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ ต้องถูกห้ามส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ จึงขอให้สื่อช่วยเป็นสื่อกลางทวงความยุติธรรม และติดตามผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย

น.ส.สุภาพร เปิดเผยว่า สืบเนื่อง 2 เดือน ก่อนหน้านี้ ได้กู้เงินดอกลอยจาก เจ้าหนี้ อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งปล่อยเงินกู้อยู่ในตำบลแสมสาร หลายครั้ง ครั้งละหลักพันถึงหลักหมื่นบาท รวมแล้วเงินต้นราว 80,000 บาท โดยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 5 บาท ส่งดอกเป็นรายวัน ระยะหลังเกิดขัดสน จึงขาดการส่งดอก ฝ่ายเจ้าหนี้แจ้งว่า มีหลักฐานการเป็นหนี้มากถึง 120,000 บาท ก็ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะห่างจากยอดกู้จริง ด้วยความรู้สึกผิด ที่ไม่ส่งดอกตามนัด ฝ่ายเจ้าหนี้จึงให้ทำหนังสือสัญญาเงินกู้ จึงได้เซ็นยินยอมรับภาระหนี้ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. โดยส่งดอกรายวัน ๆ ละ 300 บาท และคืนต้นเดือนละ 10,000 บาท เริ่มวันที่ 20 มิ.ย. แต่ไม่ได้มีระบุจะยึดทรัพย์สิน และไม่ได้มอบสัญญาเงินกู้ให้ไว้

จากนั้น หลังจากมีเซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อย ได้เดินทางกลับถึงบ้าน จนมาวันที่ 10 มิ.ย. ทางฝ่ายเจ้าหนี้ พร้อมพวก ได้นำรถกระบะมาขนรถ จยย.ไปจากที่บ้าน 2 คัน คือ ฮอนด้า คลิก สีขาว-ดำ เป็นชื่อสามี และฮอนด้า เวฟไอ สีขาว-แดง เป็นชื่อลูกชาย ซึ่งทั้ง 2 คัน ยังผ่อนไฟแนนซ์อยู่ ทำให้คนในครอบครัวต้องหยุดงาน เนื่องจากไม่มีรถขี่ไปทำงาน พยายามติดต่อทวงถามขอรถคืนเรื่อยมา แต่ก็ไม่เป็นผล

กระทั่ง วันที่ 14 มิ.ย. สามีได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.เอกชัย มูลลี พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง ช่วยไกล่เกลี่ยฝ่ายเจ้าหนี้ ให้นำรถ จยย.มาคืน จนมาวันเกิดเหตุช่วง 21.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. เจ้าหนี้พร้อมแฟนสาว และสมุน เป็นชาย 1 คน ขับรถเก๋งมาจอด ก่อนเรียกทุกคนในบ้านออกมาคุยนอกรั้ว ก่อนเจ้าหนี้และพวก เปิดฉากรุมต่อยเตะสามี ลูก และตนเอง ตามร่างกายอย่างไม่ยั้ง จนทั้งหมดลงไปนอนกลิ้งบาดเจ็บบนพื้น โดยมีแฟนสาวเจ้าหนี้ยืนดูเหตุการณ์ เหตุเพราะไม่พอใจที่สามีไปแจ้งความหวังจะเอารถคืน หลังเกิดเหตุ เพื่อนบ้านได้นำส่งรักษายังโรงพยาบาล พร้อมเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.รัชวุฒิ ทรัพย์ศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.พลูตาหลวง เมื่อกลับถึงบ้านก็พบว่า สุนัข พันธุ์พิตบูล ชื่อช็อกกี้ วัย 3 ปี ที่เลี้ยงไว้ในบ้าน ได้ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ลักษณะเหมือนถูกตีเลือดกบปาก และรูคล้ายอาวุธมีดบริเวณต้นคอนอนจมกองเลือดอยู่กลางบ้าน

เบื้องต้น ตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณมือซ้ายมีอาการทางกระดูก พบว่า สามีได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเลือดคั่งในสมอง และดั้งจมูกหัก ต้องรับการผ่าตัด ลูกชายมีบาดแผลแตกแก้มซ้าย-ขวา เย็บรวม 8 เข็ม ส่วนสุนัขได้ถูกฝังร่างไว้บริเวณเชิงเขาพลูตาหลวง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ

ด้าน ร.ต.อ.รัชวุฒิ ทรัพย์ศิริ เจ้าของคดี หลังรับแจ้งได้ส่งชุดสืบสวนลงที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พร้อมเรียกพยานสอบปากคำเพิ่มเติม รวมถึงฝ่ายผู้เสียหาย เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว หากพบว่า ฝ่ายเจ้าหนี้ มีความผิดจริงก็พร้อมจะเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย.