เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบ 1. ยกเว้นการลงทะเบียนแบบไทยแลนด์พาสทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยครอบคลุมการเดินทางเข้าทางบก 22 จังหวัด 39 ด่านผ่านแดนถาวร 2. ให้ยกเลิกใบรับรองในการเดินทางเข้าประเทศไทย หรือ Certificate of Entry (COE) แต่ขอให้สำแดงเอกสารวัคซีน และการตรวจหาเชื้อแบบต่างๆ โดยให้มีการสุ่มตรวจเอกสารที่ช่องทางเข้าออกประเทศ จนกว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และให้ยกเลิกมาตรการคัดกรองอุณหภูมิบริเวณทางเข้าออกระหว่างประเทศ และ 3.ให้ยกเลิกเงินประกันสุขภาพ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ให้ส่งเสริมการซื้อประกันแทน ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงเรื่องถอดหน้ากากอนามัยแบบสมัครใจในพื้นที่ความเสี่ยงต่ำโล่ง ไม่แออัดว่า นายกฯ เน้นย้ำว่า ขอให้เป็นความสมัครใจ โดยผู้ที่ติดเชื้อและเป็นผู้เสี่ยงสัมผัสสูง ขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ส่วนการถอดหน้ากากอนามัยสามารถทำได้ในกรณีอยู่คนเดียว หรืออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่พำนักเดียวกัน หรือกรณีมีกิจกรรมที่จำเป็นต้องถอดหน้ากากอนามัย เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือรับบริการบริเวณใบหน้าในสถานเสริมความงามหรือศิลปะการแสดง แต่หลังจากเสร็จแล้ว ควรจะต้องสวมหน้ากากอนามัยทันที

ที่ประชุม ศบค.ยังกล่าวอีกว่า ในต่างประเทศการสวมหน้ากากอนามัย บางครั้งอาจถูกมองเป็นคนติดเชื้อ น่ารังเกียจ ดังนั้นการบูลลี่ (Bully) หรือแสดงทัศนคติที่ไม่ดี กับคนที่สวมหน้ากากอนามัย ต้องประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจ เพราะการสวมหน้ากากอนามัย อาจเป็นคนที่รับผิดชอบกับสังคม ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงสูง.